เวลา 20.30 น. วันที่ 13 ธ.ค. 63 ตำรวจ สภ.ท่าหิน อ.เมือง ลพบุรี ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนกันที ถนนสายลพบุรี-สิงห์บุรี หมู่ที่ 10 ต.พรหมมาสตร์ เยื้องวัดศรีสุทธราวาส รถทั้งสองคันตกลงไปข้างทาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดคาซากรถจำนวน 1 คน จึงได้ประสานแพทย์เวร รพ.พระนารายณ์มหาราช และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู รุดเดินทางไปยังจุดที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุบริเวณคูน้ำข้างทาง พบรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ สีเทาหมายเลขทะเบียน กข-2515 ลพบุรี พลิกตะแคงขวา ด้านหน้ารถพังยับเยิน กระจกแตกละเอียด มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ติดคาซากรถเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำออกมาได้ในเวลาต่อมาก่อนรีบนำตัวส่ง รพ. อีกคันเป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน บล-5492 ลพบุรี ในสภาพด้านหน้ายังยับเยินเช่นกัน
จากการสอบถามสามีภรรยาที่ยั้งตื่นตระหนกกับเหตุการณ์เล่าว่าตนเองกำลังจะเข้านอนได้ยินเสียงดังสนั่นที่หน้าบ้าน ทีแรกคิดว่าบ้านถูกปาระเบิด ออกมาดูพบรถทั้งสองคันตกมาที่หน้าบ้านทำอะไรไม่ถูก ส่วนนายเบญจรงค์ มะลิทอง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ที่ 5 ต.เขาพระงาม อ.เมือง ลพบุรี เจ้าของรถกระบะสีขาว ทะเบียน บล-5492 ลพบุรี ซึ่งเดินไปมาที่รถ พร้อมกับร้องไห้น้ำตาไหลพราก ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามทราบว่าเมื่อช่วงหัวค่ำตนเองจอดไว้บนถนนชิดขวาหันหน้าไปทางจังหวัดสิงห์บุรีเพื่อลงไปเอาของที่บ้านได้ยินดังคล้ายยางรถระเบิด วิ่งออกมาดูพบว่ารถตนเองถูกชนอย่างจังจนตกลงข้างทางพังยับเยิน ผู้สื่อข่าวถามว่าไม่ได้รับอันตราย บาดเจ็บและรอดตายทำไมร้องให้ นายเบญจรงค์ กลับร้องให้หนักยิ่งขึ้น กล่าวว่ารถคันนี้เป็นรถออกป้ายแดงมาเพื่อทำมาหากิน กลับมาประสบอุบัติเหตุจากผู้อื่น ยอมรับเสียใจมาก รักรถคันนี้เท่าชีวิต ตอนนี้งานก็เยอะแล้วจะเอารถที่ไหนใช้ทำงาน อีกทั้งยังต้องผ่อนค่างวดทุกเดือน
ทั้งนี้ทางร้อยเวรเจ้าของคดีได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ สอบถามผู้ทีเห็นเหตุการณ์ พบว่ารถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน กข-2515 ลพบุรี ขับมาจากจังหวัดสิงห์บุรี จะเข้าตัวเมืองลพบุรี เกิดเสียหลักพุ่งชนกระบะของนายเบญจรงค์ ที่จอดอยู่ริมถนนอย่างจังจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งคงจะต้องให้แพทย์ทำการรักษาอาการจนทุเลาจึงจะเรียกมาเพื่อสอบสวนชดใช้ค่าเสียหาย ในเบื้องต้นได้อายัดตัวไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
