นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ได้เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรีของวันนี้ (4 ม.ค.64) แจ้งว่าพบผู้ป่วย โควิด-19 รายที่สอง ของจังหวัดลพบุรี โดยผู้ป่วยรายดังกล่าว เป็นชายไทย อายุ 47 ปี ที่มีภูมิลำเนาใน ต.ห้วยโป่ง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี มีรายละเอียดการเดินทาง และใช้ชีวิตในแต่ละวันช่วง เวลา11.00 น.-17.30 น. ที่สนามไก่ชน ถึง 4 จังหวัด
21 ธ.ค.63 เข้าไปสนามไก่ชนหนองตาโล่ ต.คชสิทธิ์ อ.หนองแค จ.สระบุรี
22 ธ.ค. 63 สนามไก่ชนบ้านแป้ง จ.พระนครศรีอยุธยา
23 ธ.ค.63 เข้าไปซุ้มไก่ชนลูกชิ้นเสี่ยโอ หลังวัดสิงห์ทอง ต.บางขันหมาก อ.เมืองลพบุรี
24 ธ.ค.63 ไปสนามไก่ชนลำท่าแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง
25 ธ.ค.63 กลับมาพักอาศัยที่บ้านตนเอง ต.ห้วยโป่ง
26 ธ.ค. ไปสนามไก่ชนพลังหนุ่มหลังตลาดกลาง จ.พระนครศรีอยุธยา
27 ธ.ค.63 เข้าสนามไก่ชนเรืองชัย จ. พระนครศรีอยุธยา
28 ธ.ค. 63 กลับไปเข้าสนามไก่ชนหนองตาโล่
29 ธ.ค.63 ไปสนามไก่ชนบ้านแป้ง
30ธ.ค.63 เข้าไปซุ้มไก่ชนลูกชิ้นเสี่ยโอ หลังวัดสิงห์ทอง ลพบุรี
31 ธ.ค.63 ไปห้างบิ๊กซี ลพบุรี 1 กดเงินที่ตู้ธนาคารไทยพาณิชย์ และร้านก๋วยเตี๋ยวโหน่งชะชะช่า ต.สระพานจันทร์ อ.โคกสำโรง
1 ม.ค.64 ไปเที่ยวและทำบุญที่ วัดห้วยแก้ว วัดท้องคุ้งและวัดเขาวงกต อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี และวัดสระพานนาค อ.โคกสำโรง
2 ม.ค. 64 เข้าสนามไก่ชน ต.ถลุงเหล็ก อ.โคกสำโรง จากนั้นเริ่มมีอาการป่วยและเข้ารับการรักษาที่ ร.พ.พระนารายณ์มหาราช ลพบุรีในวันที่ 3 ม.ค.64 และพบเชื้อโควิดระลอกใหม่ แพทย์ให้พักรักษาตัวอยู่ในหอผู้ป่วยติดเชื้อแยกโรคแบบพิเศษในโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช และขอให้ผู้ที่มีความเสี่ยงที่เดินทางไปยังสถานที่เดียวกับผู้ป่วยรายนี้ ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านและปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัด
ขณะที่ในโลกโซเชียล ของ จ.ลพบุรี ต่างกังวลเป็นอย่างมากถึงผู้ติดเชื้อรายนี้ ที่เดินทางไปในสนามชนไก่ถึง 4จังหวัด และยังเดินทางไปท่องเที่ยวตามวัดต่างๆ ในพื้นที่รวมทั้งในห้างสรรพสินค้า ซึ่งเกรงเป็นอย่างมากว่าจะมีการแพร่กระจายไปยังประชาชนในสถานที่ต่างๆ ซึ่งต่างจากผู้ป่วยรายแรกที่เป็นหญิงอายุ 37 ปีใน ต.โก่งธนู อ.เมืองลพบุรี ที่ตัวเองรู้ตัวว่ามาจากพื้นที่เสี่ยงได้มีการป้องกันทั้งการสวมหน้ากากอนามัยและแจ้งเจ้าหน้าที่ อสม.ในพื้นที่รวมทั้งกักตัวเองในบ้านพัก ซึ่งนับว่าเป็นผู้มีความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นอย่างมาก โดยแหล่งข่าวจาก สสจ.ลพบุรี แจ้งว่าผู้ป่วยรายนี้มีอาการปกติดี และใกล้ครบระยะเวลารักษาตัว ซึ่งอีกเพียง 2 วันก็จะเดินทางกลับบ้านพักได้
