X

หลวงพ่อทนไม่ได้เมื่อเห็นเด็กกำลังจะอดตายจากพ่อถูกจับแม่กลับมาหนีไปอีกคน

จากเหตุการณ์ ชาวบ้านอำเภอบ้านหมี่โวยเข้าร้องทุกข์แจ้งความ ที่ สภ.บ้านหมี่ ว่าถูกขโมยลักของท้ายรถกระบะ หน้าตะกร้าจักรยานยนต์ แม้แต่หมวกกันน็อกก็หาย ไม่เว้นแต่ละวัน ตำรวจเช็คกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง พบคนร้าย ขี่จักรยายนต์ออกตระเวนขโมยอาหาร สิ่งของในช่วงเวลาเช้ามืด สามารถรวบตัวทันควัน ตะลึงของกลางเต็มบ้าน รับสารภาพขโมยเพราะตกงาน เลี้ยงหลายชีวิต และติดยาบ้าอย่างหนัก


พ.ต.อ.สรพัศ คำพานิช ผกก. สภ.บ้านหมี่ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.มงคล คเชนทร รอง ผกก.สส.สภ.บ้านหมี่ ตำรวจงานสืบสวน สภ.บ้านหมี่ เร่งทำการไล่ล่า และสามารถจับกุมตัวนาย วาทิต หรือเอ แววพลอย อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 247 หมู่ที่ 5 ต.สนามแจง อ.บ้านหมี่ ลพบุรี จักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีฟ้า-ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน พร้อมยาบ้าจำนวน 6เม็ด และลูกชิ้น จำนวน 16 กิโลกรัม ข้าวสาร อาหารแห้ง ข้าวของเครื่องใช้สารพัด สุรา บุหรี่ และหมวกกันน็อกหลากหลายชนิด กองสุมอยู่ภายในบ้าน ซึ่งเป็นของกลางที่นายวาทิต ได้ออกตระเวนลักขโมยในเวลาเช้าที่ตลาดสดเทศบาลอำเภอบ้านหมี่ทั้งสิ้น มีชาวบ้าน ผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์แจ้งความหลายราย


ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั่วทั้งตลาดสดเทศบาลบ้านหมี่ พบว่าเวลาเช้าในช่วงเวลาพ่อค้าแม่ขาย ชาวบ้านจับจ่ายใช้สอบซื้อข้าวของ นำอาหารนำมาใส่ท้ายรถ ตะกร้ารถจะถูกนายวาทิตขับจักรยานยนต์ด้อมๆ มองๆ ก่อนขโมยเอาไป สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว ซึ่งยังมีร้านสะดวกซื้ออีกหลายแห่งในอำเภอบ้านหมี่ ที่พบว่านายวาทิตได้เข้าไปขโมยของ และของใช้อื่นๆหลายรายการ ซึ่งจากการตรวจของกลางภายในบ้านพบว่ามีจำนวนมาก


จากการสอบสวนนายวาทิตซึ่งให้การรับสารภาพว่าตนเองเป็นช่างทาสี และตกงานมาร่วม 3 เดือน มีลูกที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ประมาณ 2 เดือนเศษ และต้องดูแลหาเลี้ยงครอบครัว ซึ่งมีทั้งพ่อแม่ เมียและลูกอีกทั้งตนเองก็ติดยาบ้างอมแงม หมดหนทางหาเงิน จึงได้ตัดสินใจออกตระเวนลักของชาวบ้านในช่วงเวลาเช้ามืด ซึ่งทำมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน จนของกิน ข้าวใช้มีเหลือเฟือ แบ่งไปขายเพื่อนบ้านในราคาถูกเพื่อนำเงินมาซื้อยาบ้าเสพอย่างสำราญ ทั้งนี้ได้นำตัวนายวาทิตส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านหมี่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 64 พระครูนาคดิตถ์วรรักษ์ (หลวงพ่อหนึ่ง) เจ้าอาวาสวัดขาสมอคอน อ.ท่าวุ้ง ลพบุรี ซึ่งได้ติดตามข่าว รู้สึกเวทนาสงสาร จึงได้จัดหา ข้าวสาร อาหารแห้ง ผ้าห่ม เสื้อกันหนาว น้ำดื่มสะอาด รวมถึงนมผงของหนูน้อยวัย 2 เดือนเศษ เดินทางมายังบ้านของนายวาทิต หรือเอ แววพลอย ที่ถูกตำรวจ สภ.บ้านหมี่ จับดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ และครอบครองยาบ้า เพื่อมอบสิ่งของเครื่องใช้ รวมถึงเงินสดจำนวนหนึ่ง เนื่องจากสงสารเด็กที่ขาดพ่อ แต่กลับพบว่าเด็กน้อยทีเพิ่งลืมตาดูโลก ถูกแม่ทิ้งไปด้วยอีกคนวันวันเกิดเหตุ ปล่อยให้เด็กอยู่อยู่ตามลำพัง จนปู่และย่าที่อาศัยเพิงพักติดกันต้องนำหลานมาเลี้ยงแบบอดๆ อยากๆ ตามมีตามเกิด


นายบุญธรรม แววพลอย อายุ 58 ปี และนางน้ำผึ้ง โลสุดา อายุ 57 ปี ปู่และย่าของ ด.ช.เอ(นามสมมุติ) อาชีพรับจ้างทั่วไป เล่าว่าตนเองไม่ได้อยู่ร่วมชายคากับลูก และไม่รู้ว่าลูกไปทำผิดอะไร เพิ่งรู้จากเพื่อนบ้านว่าลูกถูกจับ 2 ข้อหา ไม่คิดอะไร เพราะมันผิดจริง มันตกงานแต่ดันไปติดยาบ้าลักขโมย ก็สมควรถูกจับ สงสารแต่หลานชายที่ขาดทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกัน คิดไม่ออกว่าจะเลี้ยงหลานให้รอดได้อย่างไร จนมี น.ส.รำพึง ทับทิมศรี อายุ 32 ปี เพื่อนบ้านที่รักและสงสารเด็ก ช่วยหานมมาให้แทนนมแม่ และช่วยเลี้ยงหลานให้อย่างดี

นายบุญธรรมกล่าวต่อว่า เมื่อวานได้หุงข้าวเอาน้ำข้าวแทนนมแต่หลานไม่ยอมกิน ร้องให้จ้า ต้องต้มน้ำร้อนด้วยหม้อข้าว และไปซื้อนมผงมาชงให้หลานกิน จนมีหลวงพ่อหนึ่ง ทราบข่าวได้เดินทางมาหาตนเอง พร้อมข้าวของเครื่องใช้ อาหาร และนมมาให้หลาน ตนเองซาบซึ้งในความมีเมตตาของหลวงพ่อมากที่มาช่วยต่อชีวิต ซึ่งหลวงพ่อได้ขอร้องให้ตนเองและภรรยาเลิกดื่มสุรา เพราะต่อแต่นี้จะต้องรับผิดชอบเลี้ยงหลาน และต้องหาเงินจุนเจือครอบครัว หากมัวเมาคงไม่มีใครจ้างทำงาน ซึ่งระยะแรก หลวงพ่อจะให้ไปช่วยงานที่วัดชั่วคราวเพื่อให้มีเงินเก็บไว้จับจ่ายใช้สอย เพื่อหลานชายที่เติบโตขึ้นทุกวัน จนกว่าพ่อของเด็กจะออกจากคุก

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน