จากเหตุการณ์เมื่อเวลา 19.25 น. ของวันที่ 17 ม.ค.64 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.วีรวุฒิ เชียงน้อย รอง สว.(สอบสวน) สภ.โคกสำโรง ได้รับแจ้งเกิดเหตุรถยนต์ชนบุคคลเดินเท้าที่ถนนพหลโยธิน หลักกิโลเมตรที่ 179-180 หมู่ที่ 3 หน้าโรงเรียนบ้านเขาทับควาย ในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย จึงได้ประสานแพทย์เวร รพ.โคกสำโรง และสมาคมกู้ภัยโคกสำโรงสงเคราะห์เดินทางไปยังจุดที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นถนนสี่เลน มีประชาชนจำนวนมากยืนมุงดูอยู่จำนวนมาก ที่กลางถนนพบร่างนายสมคิด สำเภาทอง อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48/5 หมู่ที่ 3 ต.ห้วยโป่ง อ.โคกสำโรง ลพบุรี นอนเสียชีวิตเลือดไหลนองพื้น โดยมีญาติร้องให้ระงมด้วยความเศร้าเสียใจ และมีเพื่อนบ้านจำนวนมากที่มางานศพแม่นายสมคิดต่างเศร้าสลดไปด้วย จากการตรวจสอบบนพื้นถนนใกล้ศพพบโลโก้รถยนต์ ยี่ห้อมาสด้า ตกอยู่ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นรถคันที่เฉี่ยวชนนายสมคิดแล้วหลบหนีมุ่งหน้าไปทาง อ.โคกสำโรง
จากการสอบสวนญาติผู้ตายเล่าว่านายสมคิด ได้เดินทางข้ามมาจาก วัดวรรณวราราม หลังจากมากราบศพแม่ที่เพิ่งเสียชีวิต ซึ่งหลังจากกราบศพแม่เสร็จก่อนพิธีสวดพระอภิธรรมจะเสร็จสิ้น นายสมคิดขอตัวกลับก่อน เนื่องจากเป็นห่วงบ้าน ที่ไม่มีใครเฝ้า โจรขโมยเยอะ ได้วิ่งข้ามถนนโดยที่ไม่ทันมองว่ามีรถยนต์วิ่งผ่านมาด้วยความเร็วสูง ได้พุ่งชนอย่างจังจนร่างกระเด็นเสียชีวิตคาที่ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกสถานที่เกิดเหตุ สอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ และจะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง เพื่อเร่งไล่ล่าติดตามตีนผีรายนี้เพื่อนำตัวมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่18 ม.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ พบคุณป้าสุมาลี โฉมงาม อายุ 64 ปี แม่ค้าขายอาหารตามสั่ง ผู้ที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่าช่วงเกิดเหตุเป็นเวลาประมาณ 19.10 น. ตนเองกำลังจะปิดร้านได้ยินเสียงดังโครม ซึ่งคิดว่าจักรยานยนต์ล้มคว่ำ วิ่งออกมาดูพบว่าลุงสมคิดถูกรถชน จึงได้ออกมาโบกไม้โบกมือให้สัญญานรถที่ขับผ่านเส้นทางได้ชะลอความเร็ว เกรงจะเหยียบซ้ำ ซึ่งคิดว่ายังไม่เสียชีวิตจนมีเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ โดยป้าสุมาลีเล่าต่อว่าบนถนนเส้นทางพหลโยธินสายนี้ รถวิ่งเร็วมากเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุล้วนมีการสูญเสียทั้งสิ้น
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าไปยังศาลาการเปรียญวัดวรรณวนาราม สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพนางน้ำค้าง สำเภาทอง อายุ 81 ปี ที่เสียชีวิตด้วยโรคชราเมื่อเช้ามืดวันที่ 16 ม.ค.64 และได้พบกับนายยันต์ สำเภาทอง อายุ 78 ปี สามีผู้ตาย ซึ่งยังอยู่ในอาการเศร้าซึม เหม่อลอย กล่าวเพียงสั้นๆ กับผู้สื่อข่าวว่าเสียใจมาก จนพูดอะไรไม่ออก โดยมีนางทองคำ สังคนาค อายุ 65 ปี บุตรสาว และเป็นพี่สาวของนายสมคิดเล่าว่า ไม่คิดว่าครอบครัวตนจะมามีอันเป็นไปเช่นนี้ เสียคนที่รักไปพร้อมกันทีเดียว 2 คน รู้สึกสลดหดหู่ ทำอะไรไม่ถูก แต่ก็จะตั้งจิตอฐิฐานทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ทั้งแม่และน้อง โดยแม่จะมีพิธีสวดพระอภิธรรมศพคืนนี้คืนสุดท้าย และจะทำการฌาปนกิจในวันอังคารที่ 19 ม.ค. 64 นี้ และจะไปร่วมบำเพ็ญกุศลศพน้อง ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะฌาปนกิจเมื่อไร เนื่องจากลูกๆ ผู้ตายได้นำศพไปที่วัดป่าหวายทุ่ง ต.ป่าตาล อ.เมือง ลพบุรี
เวลา 11.30 น.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.โคกสำโรง หลังจากทราบว่า ตีนผี รถยนต์คันที่ชนนายสมคิดได้ติดต่อขอมอบตัว พร้อมรถ จึงได้ไปสอบถามกับ ร.ต.อ.วีระวุฒิ เชียงน้อย ร้อยเวรเจาของคดี ทราบว่าผู้ขับขี่ซึ่งเป็นผู้หญิง (ไม่ขอเปิดเผยชื่อ) เจ้าของรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ มาสด้า สีเทา หมายเลขทะเบียน 9 กพ-392 กรุงเทพมหานคร ได้โทรศัพท์มายังโรงพักเมื่อคืนหลังจากหลบหนีไปตั้งหลัก เนื่องจากตกใจกลัว ก่อนให้ญาติโทรประสานร้อยเวรเพื่อนำรถมาตรวจสอบ พบมีร่องรอยการชนจนกระโปรงรถยุบ กระจกร้าว และโลโก้ยี่ห้อรถหายไป ในเบื้องต้นร้อยเวรสอบสวนได้สอบปากคำ และแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งอาจจะแจ้งข้อหาความผิดฐานไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลืออีกระทง ซึ่งผู้ต้องหาได้ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวไป ตั้งแต่เมื่อคืนเช่นกัน
เวลา 15.30 น.ร่างไร้วิญญาณของนายสมคิด สำเภาทอง อายุ 60 ปี ได้เดินทางไปยังวัดป่าหวายทุ่ง ต.ป่าตาล อ.เมือง ลพบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ โดยมีญาติ เพื่อนบ้าน จำนวนหนึ่ง ได้ทำความสะอาดสถานที่ จัดดอกไม้ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลด ก่อนจะมีพิธีรดน้ำศพในเวลา 16.00 น. ซึ่งทางญาติผู้ตายไม่ขอกล่าวอะไรเนื่องจากอยู่ระหว่างอาลัยจากการจากไปของผู้ที่รัก โดยกล่าวว่าหลังจากพิธีรดน้ำศพในวันนี้ ในเวลา 19.30 น. จะมีพิธีสวดพระอภิธรรมศพ ไปจนถึงวันพุธที่ 20 ม.ค.64 และจะทำการฌาปนกิจในวันที่ 21 ม.ค.64 เวลา 16.00 น.
