ความคืบหน้าทางด้านคดีรุมโทรมหญิงสาวที่ อ.พัฒนานิคม ลพบุรี เมื่อเดือนกันยายน และตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ สภ.พัฒนานิคม ติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีที่กลุ่ม วัยรุ่นผู้ก่อเหตุ จำนวน 13 คน รุมโทรมหญิงสาววัย 18 ปี ตามที่ทางด้านของพ่อของผู้เสียหายได้มีการเดินทางเข้าพบกับทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กรุงเทพฯ เพื่อขอความช่วยเหลือ และหาแนวทางดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ โดยอ้างคดีไม่มีความคืบหน้า
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พร้อมด้วยตำรวจงานสืบสวน สภ.พัฒนานิคม ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบบริเวณจุดที่คนร้ายก่อเหตุพบว่า จุดที่คนร้ายก่อเหตุรุมโทรม ในครั้งแรกอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ที่กระต๊อบกลางทุ่งนาตำบลดีลัง และครั้งที่ 2 ที่กระต๊อบกลางไร่มัน พื้นที่ตำบลดีรังหมู่ที่ 5 เช่นเดียวกัน นอกจากนั้นผู้สื่อข่าวได้มีการพูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ ระบุว่าสำหรับกระต๊อบที่ ผู้ก่อเหตุใช้เป็นสถานที่ในการลงมือรุมโทรมทั้งสองแห่ง เป็นพื้นที่ที่เจ้าของทำไว้เพื่อเอาไว้คอยมาเฝ้านา เฝ้าไร่ของตนเอง ซึ่งไม่ได้มีการหวงห้าม ปิดกั้นพื้นที่ไว้เป็นการส่วนบุคคลจึงมักทำให้มีกลุ่มวัยรุ่นแวะเวียนเข้ามายังบริเวณกระต๊อบที่เกิดเหตุบ่อยครั้ง
ข่าวน่าสนใจ:
ซึ่งจากการสอบถาม พ.ต.ท.อรงค์เดช สอาดบัว รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.พัฒนานิคม ยืนยันว่าคดีดังกล่าวมีความคืบหน้าเป็นลำดับ ที่สำคัญข้อมูลที่มีการแจ้งว่าคดีไม่มีความคืบหน้า ตนเองยืนยันว่าคดีดังกล่าวมีความคืบหน้าไปมาก และตำรวจได้มีการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมดแล้ว พร้อมกับมีการดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหากลับผู้ก่อเหตุทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พ.ต.ท.อรงค์เดช ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดขึ้น 2 ครั้งด้วยกัน ครั้งแรกผู้ก่อเหตุได้ก่อเหตุเมื่อ ช่วงต้นเดือนกันยายน 2563 ครั้งที่สองเกิดเหตุเมื่อช่วงกลางเดือนตุลาคม 2563 แต่ผู้เสียหายมาดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งหลังจากที่ได้รับแจ้งความ ไว้ก็ได้มีการประสานให้ชุดสืบสวนเร่งรัดและติดตาม ผู้ก่อเหตุทั้งหมดในทันที พร้อมทั้งได้มีการดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ก่อเหตุทั้งหมดฐานความผิดร่วมกัน ก่อเหตุลักษณะโทรมหญิงอื่นซึ่งมิใช่ภริยาของตน
ขณะที่จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าผู้ก่อเหตุ มีจำนวนทั้งสิ้น 12 คน โดยผู้ต้องหาทั้งหมดยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่จากการสอบปากคำจากผู้เสียหาย ยืนยันชัดเจนว่าผู้ก่อเหตุทั้งหมด มีลักษณะพฤติการณ์ในการก่อเหตุที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งตรงนี้เป็นรายละเอียดในส่วนของสำนวนการสอบสวน และแต่ละคนจะมีฐานความผิดที่ต่างกันออกไป เนื่องจากมีบางคนที่มีการกระทำความผิดซ้ำในช่วงเวลาเดียวกัน เช่นนายศุภกิจ (ขอสงวนอายุและนามสกุล) ที่มีการก่อเหตุครั้งที่ 1 มีเพศสัมพันธ์ในครั้งดังกล่าวจำนวน 1 ครั้ง และครั้งที่สองที่ก่อเหตุมีเพศสัมพันธ์กับผู้เสียหายถึง 3 ครั้ง
อย่างไรก็ตามสำหรับคดีที่เกิดขึ้นทางด้าน รองผู้กำกับสอบสวน ยืนยันว่าจะสามารถสรุปความเห็นสั่งฟ้องได้ช้าที่สุดไม่เกินสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ นอกจากนี้ตำรวจยังแนะนำให้ผู้เสียหายไปดำเนินการ ใช้สิทธิ์ในฐานะผู้เสียหายเพื่อเรียกร้องเงินเยียวยาจากกระทรวงยุติธรรมอีกช่องทางหนึ่งด้วยเช่นกัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: