จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 64 ในโลกโซเชียลที่ มียัยแนน ติดมึน ได้แชร์เหตุทะเลาะวิวาทกลางตลาดสดโคกสำโรง ลพบุรี เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา โดยระบุข้อความว่า “ทำเกินไปไหม แค่มันขอเงินไม่ให้ก็แค่ด่ามันหรือไม่ก็ตบไปสักทีสองทีก็พอไหม ตอนแรกกูคิดว่ามึงทำมันแค่ทีสองทีแต่พอกูเห็นคลิปกูบอกเลยกูเอาเรื่องให้ถึงที่สุด” โดยคลิปดังกล่าวถูกระงับไปแล้ว (เนื่องจากมีเนื้อหาละเอียดอ่อน วีดีโอแสดงเนื้อหาที่มีความรุนแรงหรือภาพสยดสยอง)
ซึ่งคลิปดังกล่าวเป็นเหตุทะเลาะวิวาทกันที่บริเวณ หน้าร้านอ้วนโอสถ ท่ารถโคกสำโรง-สระโบสถ์ ซึ่งในภาพพบว่ามีผู้แต่งกายคล้ายนักศึกษา ได้ใช้เท้าแตะ กระทืบชายสวมชุดดำ ที่นอนกองอยู่กับพื้น โดยลักษณะไม่มีทางต่อสู้ ไปจำนวน 12 ครั้ง และคลิปภาพได้ตัดหายไป ระยะเวลาประมาณ 16 วินาที หลังจากนั้นก็มีการแชร์กันต่อๆ ไปจนทราบถึง นางพะยอม (ขอสงวนอายุ และนามสุกล) พี่สาวของผู้ได้รับบาดเจ็บ และ น.ส.รัตนดิกร (ขอสงวนอายุ และนามสกุล) หลานสาวผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่ตามออกตามหาจนพบว่านายองอาจ ขอสงวนนามสกุล อายุ 36 ปี ซึ่งป่วยทางจิตเวช นอนซมอยู่ จึงนำกลับมาบ้าน แต่ดูท่าอาการไม่ดีเนื่องจากอาเจียน และปวดหัวมากจึงนำส่ง รพ.จนหมอบอกการการว่าคนเจ็บสมองบวม ต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อรอดูอาการ
น.ส.รัตนดิกร หรือยัยแนน ตึดมึน จึงได้โพสต์ คลิป เหตุการณ์ดังกล่าว และเดินทางไปกับนางพะยอม ผู้เป็นแม่ ซึ่งเป็นพี่สาวของนายองอาจ ที่ สภ.โคกสำโรง เพื่อเข้าแจ้งความ ซึ่งพบกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นนักศึกษาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรี จึงได้เข้าไปสอบถามว่าทำไมถึงได้ทำน้าชายรุนแรงขนาดนั้น ซึ่งนักศึกษาตอบว่าเป็นการป้องกันตัว ซึ่งคิดว่านายองอาจที่เดินรี่มาขอเงินตน และตนปฎิเสธไป ทำท่าจะใช้อาวุธมาทำร้ายจึงตอบโต้ไป น.ส.รัตนดิกร สอบถามไปทำเกินไปไหม คนสติไม่ดีแค่ตบสั่งสอน สักที สองที ก็คงหนีไป ซึ่งนักศึกษาไม่ตอบ ได้แต่ก้มหน้านิ่งด้วยความสำนึกผิด
นางพะยอม และแม่ค้าละแวกท่ารถ เล่าว่าน้องชายป่วยด้วยจิตเวช ชอบออกมาตลาดเพื่อขอเงินชาวบ้าน ขอขนม และชอบช่วยแม่ค้าเก็บกวาดเช็ดถูพื้น ซึ่งแม่ค้าย่านนี้รู้จักดี องอาจน้องชายไม่เคยทำร้ายใคร ซึ่งอาจจะดูแต่งตัวรุงรัง สกปรกแต่จิตใจดี ไม่คิดว่านักศึกษาจะมาทำร้ายน้องรุนแรงขนาดนี้ ทั้งนี้ต้องรอใบผลอาการจากแพทย์ รพ.โคกสำโรง ว่าน้องมีอาการเช่นไร ซึ่งทางพนักงานสอบสวน สภ.โคกสำโรง ได้สอบปากคำผู้ก่อเหตุ พยานในที่เกิดเหตุและเห็นเหตุการณ์ เพื่อจะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 5 ก.พ. 64 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง รพ.โคกสำโรง เพื่อสอบถามแพทย์ถึงอาการของนายองอาจ ผู้ได้รับบาดเจ็บที่ถูกนักศึกษาทำร้ายร่างกายช่วงบ่ายของเมื่อวาน ทราบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บอาการดีขึ้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายภูมิพัฒน์ หรือกาน หรุ่มเลิศ อาย 20 ปี นักศึกษาผู้ที่ลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ตามคลิปในสื่อโซเชียล กล่าวว่าวันนี้ตนได้มาเยี่ยมและดูอาการของผู้บาดเจ็บที่ถูกตนเองเตะกระทืบเมื่อวาน และเพื่อขอโทษกับญาติคนเจ็บที่ตนเองได้กระทำลงไปอย่างไม่ยั้งคิด หลังจากที่เมื่อคืนเวลาประมาณ 22.00 น. ได้พาพ่อแม่ และผู้ปกครองมาเยี่ยมคนเจ็บและขอเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการรักษา
นายภูมิพัฒน์ เล่าว่าช่วงเกิดเหตุตนเองกำลังจะกลับบ้าน เดินควักเงินเพื่อจะไปซื้อน้ำ โดนนายองอาจผู้บาดเจ็บแซวว่าไม่เอาเงินๆ แต่ตนเองก็ไม่ได้สนใจ เมื่อเดินกลับมากลับถูกนายองอาจขอเงิน ตนเองจึงได้พูดเสียงแข็งปฎิเสธไป ว่าไม่ให้มีก็ไม่ให้ และได้ยินแว่วคล้ายว่าระวังให้ดี หลังจากนั้นนายองอาจได้ปรี่เข้ามาพร้อมตะกร้า และทำท่าควักอาวุธ ซึ่งตนเองเข้าใจว่าเป็นมีดและปืนจึงได้กระหน่ำเตะจนล้มก่อนกระทืบซ้ำตามคลิป จนมารู้ว่าคนที่ตนเองกระทำเป็นผู้ป่วยจิตเวช จึงอยากจะขอโทษครอบครัวผู้บาดเจ็บ สังคม ที่ลงมือก่อเหตุเช่นนี้เพราะตกใจกลัว ยอมรับว่าทำหนักเกินไปจริงๆ
ในด้านของ น.ส.รัตนติกร คงผาสุก อายุ 26 ปี หลานสาวนายองอาจผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่นำใบสั่งยาจากแพทย์ ไปรับยาจากคลินิกจิตเวชเสร็จ พร้อมยาแก้ปวด เดินออกมาพร้อมกับนายองอาจ แหวนเงิน อายุ 36 ปี มีศักดิ์เป็นลุง ที่ทางแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถาม และสามารถคุยกันรู้เรื่อง หายจากอาการปวดศีรษะแล้ว มีบาดแผลที่มือซ้ายเล็กน้อย และกำหนดวันนัดอีกครั้งในวันที่ 19 ก.พ. 64
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ญาติ และน.ส.รัตนติกร หลานสาวเล่าว่ารู้สึกผ่อนคลายที่ทางคู่กรณีเข้ามาพบแม่เพื่อขอรับผิดชอบสิ่งที่เกิด และยอมชดใช้ในการรักษาอาการจนถึงที่สุด แต่ที่สบายใจมากกว่าคือลุงหายจากอาการปวดศีรษะ ไม่อาเจียนแล้ว แต่ก็ยังขุ่นข้องหมองใจบ้างกับเหตุการณ์เมื่อวาน ที่น้องกานผู้ที่ก่อเหตุลงมือกระทำรุนแรงจนรับไม่ได้ และอีกหลายคนรวมถึงสังคมก็ประณามการกระทำดังกล่าวตามคลิปที่ตนเองโพสต์ ในส่วนของคดีความนั้นตนเองไม่รู้ต้องให้ทางผู้ใหญ่ตกลงกันเอง ในเบื้องต้น พ.ต.ท.ณัฐพล พงษานุวัฒน์ สารวัตรเวรสอบสวนสภ.โคกสำโรง รอใบรับรองผลจากแพทย์เพื่อการดำเนินคดีในส่วนของการทำร้ายร่างกาย และการออมชอมชดใช้ส่วนของการเรียกร้องของผู้เสียหายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: