บอกได้เลยว่าที่นี่สวยงามมากของจริง สะพานผุดกลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งเป็นสะพานเก่าที่ถูกสร้างไว้ ก่อนที่จะสร้างเขื่อนฯ กว่า 30 ปี ซึ่งตัวสะพานสูง จึงทำให้ได้เห็นตัวสะพาน ราวสะพานชัดเจน มันอันซีนจริงๆ เก๋มากๆ ถ่ายรูปแล้วมีความสวยงามมาก ยิ่งถ้าช่วงพระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าคือห้ามพลาดเด็ดขาด
สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งของเมืองลพบุรี ที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ บ้านมะนาวหวาน อ.พัฒนานิคม ลพบุรี ในช่วงน้ำลดซึ่งนอกจากจะมี วัด ชุมชนเก่าร่วม 20 ปีโผล่แล้ว ยังมีสะพาน ที่จมน้ำอยู่ภายในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โผล่เหนือน้ำขึ้นมาอย่างชัดเจน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวที่ขับเรือฝ่าสายน้ำไปจนถึง บันทึกภาพมาอวดอย่างสวยงาม แปลกตา ในบรรยากาศเย็นสบายกลางน้ำ ที่หาดูได้ยาก จะมีฤดูเดียวในหนึ่งปีหรือหลายปีที่ได้เห็น
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังจุดใกล้ที่สุดของสะพานโผล่ มองเห็นด้วยสายตา เมื่อสอบถามชาวประมงในพื้นที่ทราบว่าจากฝั่งไปถึงสะพานประมาณกว่า 2 กิโลเมตร สถานที่ดังกล่าวเป็นสถานที่เดียวกันกับทะเลน้ำจืดลพบุรี ที่เคยมีนักท่องเที่ยวอย่างล้นหลามในปีที่ผ่านมา แต่เนื่องจากว่าสถานที่ท่องเที่ยวดังกล่าวถูกจำกัดด้วยความรับผิดชอบของสำนักชลประทาน ที่เปิดโอกาสให้ชาวบ้านย่านดังกล่าวได้ช่วยกันดูแล และรับผิดชอบกันเอง มีนักท่องเที่ยวมากมาย พ่อค้าแม่ขายล้นหลาม จนเกิดภาวะขยะล้นพื้นที่ ไม่มีสถานที่ทิ้งกลบขยะ จนเกรงว่าจะเกิดแหล่งเชื้อโรค อีกทั้งไม่มีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งทุกปีจะเกิดเหตุการณ์สลด ทางสำนักงานชลประทานจึงได้สั่งระงับ เหลือเพียงเรือประมงที่ยังคงทำมาหากินได้ตามปกติ
นายตระกูล บุญด้วยลาน อายุ 58 ปี กำนัน ต.มะนาวหวาน กล่าวว่าสะพานดังกล่าวนั้นเดิมเป็นสะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก มีมานานกว่า 30 ปี ช่วงน้ำลดจะมองเห็นสะพานชัดเจน เมื่อมีน้ำเต็มเขื่อนสะพานดังกล่าวก็ยังคงมองเห็นหากว่าคลื่นลมไม่แรง ซึ่งกำนันกล่าวว่าสถานที่แห่งนี้ เคยมีนักท่องเที่ยวจนล้นหลามในช่วงฤดูแล้ง ตั้งแต่เดือน มีนาคม –พฤษภาคม แต่ต้องให้น้ำลงจากฝั่งไปอีกประมาณ 20 เมตร ถึงจะมองเห็นหินกรวดขาวที่คล้ายชายหาด นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวชม ลงเล่นน้ำได้ แต่ต้องระวังป้องกันกันเอง เนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบ และคอยดูแล แต่ขอเตือนสำหรับเดือนพฤษภาคมของทุกปี ไม่แนะนำให้มาลงเล่นเนื่องจากปลาปักเป้ากำลังวางไข่ในโพรงหินขาวริมฝั่ง แม่ปลาจะหวงไข่และดุร้ายมาก เคยไล่กัดนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บมาแล้วหลายราย กำนันยังกล่าวต่อว่าสำหรับ นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปชมอย่างใกล้ชิดกับสะพานผุดโผล่กลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์นั้นไม่มีใครหวงห้าม เว้นเสียแต่ต้องมียานพาหนะมาเอง และคิดว่าปลอดภัยพอ ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงพายุฤดูร้อน อากาศแปรปรวนได้ทุกเวลา คลื่นลมแรง คลื่นใต้น้ำก็แรง ยังไม่เหมาะกับการเดินทางไปยังสะพานผุด เนื่องจากมีระยะทางไกล หากมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดจะไม่มีใครสามารถช่วยเหลือได้ทัน
