ผู้นำท้องถิ่น ชาวบ้านไม่ทนต่อพฤติการณ์เจ้าอาวาสวัดวัย 80 ปี ที่นำอดีตเมียมาเป็นเลขาส่วนตัว นำที่ดินป่าช้าเก่ากว่า 14 ไร่ ที่มีผู้ถวายเป็นสาธารณะประโยชน์กับวัดสร้างบ้านให้เมียอยู่ รถยนต์ที่มีผู้มาถวายเพื่อใช้ในกิจของสงฆ์ก็โอนเป็นชื่อเมีย เรี่ยไรบอกบุญก็ไม่เคยปรึกษาหารือกับคณะกรรมการวัด สร้างวัตถุมงคลจำหน่ายภายในวัดโดยมีญาติทางเมียเป็นผู้ดำเนินการ เมื่อทางไวยาวัจกร คณะกรรมการวัด ขอตรวจสอบสถานทางการเงินของวัด เจ้าอาวาสใช้อำนาจปลดไวยาวัจกรออกจากตำแหน่งทันทีเพื่อตัดปัญหา แต่ชาวบ้านรู้เห็นพฤติกรรมเหล่านี้จากหลวงพ่อมานาน ไม่ขอทนอีกต่อไปเข้าร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลพบุรี เพื่อส่งเจ้าหน้าที่รับผิดชอบตรวจสอบ โดยมีเจ้าคณะอำเภอชัยบาดาลรับเรื่องร้องเรียนอีกทาง และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี ร่วมหารือเพื่อสรุปถึงเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ผลให้เจ้าอาวาสวัย 80 ปี พ้นจากตำแหน่งเจ้าอาวาส ห้ามยุ่งเกี่ยวในกิจกรรมของวัดรวมถึงการจำหน่ายและการปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ ชาวบ้านก็ยังมีความประสงค์ อยากจะให้ลาสิกขาบทหรือออกจากพ้นวัดไปให้ไกล
ที่สำนักงานเจ้าคณะอำเภอชัยบาดาลวัดลำนารายณ์ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ได้มีผู้นำท้องถิ่น ตัวแทนชาวบ้านถนนโค้ง หมู่ 4 ตำบลชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี กว่า 20 คน เข้าร้องเรียนต่อ พระครูบุญบาลประดิษฐ์ เจ้าคณะอำเภอชัยบาดาล และนางสาวอังศุมาลิน
จุฑาจินดาเขต ผ.อ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี ที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ถึงพฤติการณ์ของพระครูปลัดสมจิตร สุจิตโต วัย 80 ปี เจ้าอาวาสวัดถนนโค้ง อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ที่ชาวบ้านแจ้งว่าหลวงพ่อสมจิตร ได้ประพฤติมิชอบ รวมถึง 6 เรื่อง ด้วยกันคือ
1.เรื่องที่ดิน ที่เจ้าอาวาสจัดแบ่งให้ชาวบ้าน และหน่วยงานเข้าไปอยู่ โดยมีอดีตภรรยาอาศัยอยู่ด้วย อีกทั้งยังหาผลประโยชน์ โดยการสร้างห้องแถวนำเงินมาใช้ส่วนตัว2. เรื่องรถยนต์ของวัด ที่โอนให้เมีย ให้เปลี่ยนเป็นชื่อของวัดถนนโค้งอย่างถูกต้อง
3. เรื่อง วัตถุมงคล คือไอ้ไข่ ห้ามนำเข้ามาจำหน่าย และห้ามนำมายังบริเวณวัด เนื่องจากไม่มีการปรึกษาคณะกรรมการวัดและชาวบ้านก่อน ไม่มีการชี้แจงที่มาและรายรับรายจ่ายให้ทางคณะกรรมการวัดและชาวบ้านทราบแต่อย่างใด
4. เรื่อง สตรีเพศ ห้ามไม่ให้นางพวงรัตน์ โคตรบุตร (อดีตภรรยา) มาเป็นเลขานุการส่วนตัว และสีกาอีก 2 คน ที่เจ้าอาวาสให้มาช่วยงานส่วนตัวที่กุฏิของตนและมักขึ้นรถออกไปข้างนอกกับเจ้าอาวาสในบ่อยครั้งพร้อมคนขับรถ ซึ่งชาวบ้านมองเห็นถึงความไม่เหมาะสม และห้ามเข้ามายังบริเวณวัดในเวลายามวิกาล
5. เรื่อง เจ้าอาวาสไม่มีความเมตตา พูดจาไม่สุภาพ
6. เจ้าอาวาส ไม่ให้ตรวจสอบที่มาและที่ไปของเงินในบัญชีธนาคารของวัด จำนวน 2 บัญชี บัญชีที่ 1 และ 2 สืบเนื่องการเดิม บัญชีแรกเป็นบัญชีสร้างโบสถ์ มีเงินจำนวน 300,000 บาท แต่เจ้าอาวาสขอเบิกเพื่อไปใช้จ่ายก่อน จำนวน 100,000 บาท คงเหลือในบัญชี 200,000 บาท แต่ปัจจุบันยังไม่ทราบว่าเงินจำนวนนี้ยังคงเหลือไหม คณะกรรมการวัดพร้อมด้วยชาวบ้าน จึงต้องการตรวจสอบบัญชีข้างต้นนี้แต่เจ้าอาวาสไม่ให้ความร่วมมือ
ทั้งนี้จากการประชุมคณะกรรมการฯ โดยมีพระครูบุญบาลประดิษฐ์เจ้าคณะอำเภอชัยบาดาล น.ส.อังศุมาลิน จุฑาจินดาเขต ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี น.ส.ธารทิพย์ ทองสุข กำนันตำบลชัยบาดาล น.ส.รัตนาพร สิงห์ขำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่4 ต.ถนนโค้ง อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี และคณะกรรมการสอบสวนได้ดำเนินการสอบสวน พระครูปลัดสมจิต สุจิตโต เจ้าอาวาสวัดถนนโค้ง ผู้ถูกร้อง และข้อเท็จจริงจากกลุ่มมวลชนชาวบ้านแล้ว มีมติให้ พระครูปลัดสมจิตร สุจิตโต วัย 80 ปี เจ้าอาวาสวัดถนนโค้ง ตำบล ชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ลาออกจากการเป็นเจ้าอาวาสวัดถนนโค้งมีผลทันที และได้จัดทำข้อตกลงกับตัวแทนชาวบ้านโดยที่พระครูปลัดสมจิตร สุจิตโต เจ้าอาวาสวัดถนนโค้ง ยินยอมลาออกจากเจ้าอาวาสวัดถนนโค้ง และได้ลงลายมือชื่อในหนังสือลาออกจาก เจ้าอาวาสวัดถนนโค้งต่อหน้าเจ้าคณะอำเภอชัยบาดาล และเซ็นต์รับรองจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวในกิจกรรมของวัดถนนโค้งทุกกรณี รวมถึงการจำหน่ายและปลุกเสกวัตถุมงคล ทำให้ชาวบ้านพอใจในระดับหนึ่ง ซึ่งความจริงชาวบ้านอยากให้ลาสิกขาบทไปอยู่กับเมียซะ หรือย้ายออกจากวัดแห่งนี้ไปจะดีใจมากกว่านี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: