กลุ่มสภาเครือข่ายประชาชน 4 ภาค (สอส.) โผล่ลพบุรี พาคนต่างพื้นที่เข้ามาอบรม โดยไม่แจ้งท้องที่ นายก อบต.เข้าตรวจสอบพร้อมผู้สื่อข่าว เพราะเกรงจะแพร่โควิดเชื้อ กลับถูกผลักอก คว้ากล้อง จนต้องถอยร่นปลัดฝ่ายความมั่นคงต้องนำกำลังเข้ามาระงับเหตุก่อนบานปลาย พบมีการแอบอ้างเบื้องสูง นำประชาชนที่หลงเชื่อหลายจังหวัดมารวมกลุ่ม จ่ายเงินเข้าอบรมหวังได้ที่ดินทำกิน ทั้งที่เป็นที่ ส.ป.ก.บุกรุกขุดดินมาถมสร้างความน่าเชื่อถือ
วันที่ 28 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่ผ่านมา รับแจ้งจากนายดนุเดช ศิริวงษ์ตระกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางกะพี้ ต.ดงพลับ อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ว่ามีชาวบ้านผู้ร้องเรียนว่ามีกลุ่มบุคคลจำนวนมากได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่ หมู่ 2 ต.ดงพลับ ล้วนเดินทางมาจากต่างจังหวัดทั้งสิ้น จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ โดยได้เชิญผู้สื่อข่าวติดตามไปด้วย เมื่อไปถึงพบมีกลุ่มประชาชนกว่า 50 คน รถจอดริมถนนหลายสิบคัน นายดนุเดช จึงได้สอบถามว่า ได้ประสานกับทางสาธารณสุขตำบล หรืออำเภอแล้วหรือยัง เกี่ยวกับมาตรการการป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 โดยมีนายสำเริง แหวนเพชร ที่อ้างว่าเป็นประธานเครือข่ายประชาชนอีสาน (สอส.) ประชาชน 4 ภาค จังหวัดลพบุรี ว่าได้ขออนุญาตแล้ว แต่ทางนายก ทราบมาว่า ทางสาธารณสุขตำบล และอำเภอ ไม่ได้ออกใบอนุญาตให้ จึงเป็นการโกหก และผิด พ.ร.บ.การควบคุมโรค แต่ทางกลุ่มบุคคลดังกล่าวนำหนังสือมาอ้าง แต่เมื่อนายก อบต. ขอดูก็ไม่ให้ดูบอกเป็นเรื่องส่วนบุคคล จนเกิดการโต้เถียงกัน
จากนั้น นายดนุเดช นายกอบต.บางกะพี้ ได้สอบถามต่อหน้าผู้ที่กำลังอบรมว่า ที่เข้ามาในพื้นที่โดยไม่บอกเจ้าของพื้นที่ ซึ่งมีทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านมันผิดระเบียบ พ.ร.บ.ควบคุมโรค และที่เข้ามาในพื้นที่ของ ส.ป.ก.นี้เพื่อจุดประสงค์ใดกันแน่ เท่าที่ทราบจากผู้ที่เข้าร้องทุกข์แจ้งความ และมีผู้หลงเชื่อเสียเงินให้กับกลุ่มสภาเครือข่ายนี้หลายร้อยคน โดยเชื่อว่าจะได้ที่ดินทำกิน ที่ดินปลูกบ้านเพื่ออยู่อาศัย ซึ่งเป็นการหลอกลวงประชาชน เพราะที่ดินตรงจุดนี้เป็นของ ส.ป.ก.ลพบุรี มีประชาชนผู้ที่เช่าซื้อถูกต้องตามกฎหมายเช่าซื้ออยู่แล้ว พวกคุณแอบมาทำประโยชน์ให้กับตัวเองทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ โดยเอาสถาบันเบื้องสูงมาอ้างเพื่อหากิน หลอกลวงให้ประชาชน เสียทรัพย์สินเงินทองมามากมายหลายพื้นที่ หลายจังหวัด ก่อนที่จะมีชายฉกรรจ์หลายคนปรี่เข้ามาหาผู้สื่อข่าว ผลักอก ปัดกล้อง ด่าทอด้วยคำหยาบคาย จนต้องถอยร่น นายดนุเดช จึงได้โทรฯแจ้งปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอบ้านหมี่นำเจ้าหน้าที่ เข้าควบคุมสถานการณ์
ทั้งนี้ กรณีที่เกิดขึ้น มีผู้เสียหายทั้งในพื้นที่ และผู้ที่เข้าแจ้งความระบุพฤติกรรมนายสำเริง แหวนเพชร ประธานเครือข่ายฯ และนางกัญญา บุญเผย ภรรยา นายสำเริง ซึ่งเป็นเลขา ได้ชักชวนประชาชนผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนเรื่องหนี้สิน กับหน่วยงานของรัฐ และเอกชนและไม่มีที่อยู่อาศัยที่ดินทำกิน หากอยากได้รับการปลดหนี้ และได้ที่ดินอยู่อาศัยจำนวน 1ไร่ ที่ดินทำกิน 4-5ไร่ ให้มาเป็นสมาชิกกลุ่มสภาประชาชน 4 ภาค แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการเข้าเป็นสมาชิกและค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมแล้วประมาณ 2,695 บาท เมื่อได้เข้าฝึกอบรมจะได้รับใบประกาศนียบัตร และบัตรประจำตัวจาก นายประพาส โงกสูงเนิน ประธานเครือข่ายสภาประชาชน 4 ภาค แล้วจะได้รับการปลดหนี้สิน ทั้งจะได้ที่ดินก่อสร้างบ้าน 1 ไร่ ที่ดินทำกิน 4-5 ไร่ โครงการดังกล่าวนั้นกลุ่มสภา 4 ภาค ยังอ้างว่าเป็นโครงการตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช จนมีประชาชนหลงเชื่อเข้าเป็นสมาชิกและเข้าฝึกอบรมเป็นจำนวนมาก เพื่อหวังจะได้ที่ดินทำกินตามที่อ้าง
อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่อบรมครบ 3 ครั้ง นายสำเริง แหวนเพชร ประธานเครือข่ายฯ ได้นำชี้ที่ดินแปลงของ ส.ป.ก. ลพบุรี ที่มีผู้เช่าซื้อ และได้ทำสัญญาเช่าซื้อที่ดินแล้ว ขณะนี้มีที่ดินของผู้อื่นบางแปลง ที่นายสำเริง เข้าบุกรุกขุดดินจากที่ดินของ ส.ป.ก.มาถมในที่ดินของนายสมหมาย มีชำนาญ ผู้เช่าซื้อถูกต้อง โดยเจ้าของไม่เคยรู้ เป็นการแสดงให้เห็นว่าทำจริง แต่แท้จริงไม่ใช่ ผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์กับ อบต.พื้นที่ ทางเจ้าหน้าที่ อบต.ได้ลงพื้นที่เข้ามาตรวจสอบ พบเป็นการบุกรุกถมที่ผู้อื่นจริง มีความผิดตามพระราชบัญญัติการขุดดินถมดิน พ.ศ.2543 จนกลุ่มนายสำเริงย้ายหนีหายหน้าไปหลายเดือน มีผู้เสียหายทยอยเข้าแจ้งความตาม สภ.ต่างๆ มากมาย
ผู้สื่อข่าวพยายามถามนายสำเริง ประธานเครือข่ายจังหวัดลพบุรี ว่ามีที่ดินให้กับผู้ที่มาอบรมจริงหรือไม่ นายสำเริงตอบว่าจริง ผู้สื่อข่าวถามว่าขอดูเอกสารสิทธิ และพาไปชี้ที่ดินที่อ้างได้หรือไม่ นายสำเริง ไม่ตอบ เดินหนีหายไป จนมีกลุ่มชายฉกรรจ์หลายคนปรี่เข้ามาหาผู้สื่อข่าว ปลัดฝ่ายปกครองเห็นท่าไม่ดี เนื่องจากกลุ่มนี้ชายหญิงยังด่าทอ ท้าปะทะกับผู้สื่อข่าว จนต้องประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล ลงพื้นที่ควบคุมสถานการณ์อีกชุดโดยร้องขอให้ ผู้สื่อข่าวกับนายก หลบไปก่อนเกรงจะไม่ปลอดภัย เมื่อสอบถาม ประชาชนที่มาอบรมว่า เชื่อหรือไม่ว่าจะได้ที่ดิน เขามีหลักฐานอะไรมาชี้แจง ประชาชนที่มาอบรมตอบว่าเชื่อเพราะเป็นโครงการในหลวง เขาคงไม่กล้าโกหก ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หลังจากฟังนายก อบต. แล้วมีความรู้สึกอย่างไร ประชาชนตอบว่าตอนนี้ชักไม่แน่ใจ เพราะทุกคนที่มาอบรมในวันนี้ ไม่ได้รู้จักกับใครสักคนเนื่องจากอยู่คนละจังหวัด ซึ่งทราบเพียงว่าต้องไปอบรมจำนวน 3 ครั้ง ในจังหวัดนครราชสีมา จังหวัดเพชรบุรี และลพบุรี
ด้านนายดนุเดช นายก อบต.บางกะพี้ ได้สอบถามไปยัง ส.ป.ก.ลพบุรีว่า ได้มีเครือข่ายประชาชอีสาน (สอส.) สมาชิกกลุ่มสภา 4 ภาค เข้ามาบุกรุก ก่อสร้างบ้านเรือนในที่ดินของ ส.ป.ก.ไปแล้วประมาณ 20 หลัง หลังละ 1 ไร่ นี้ ทาง ส.ป.ก. ลพบุรี ทราบหรือไม่ เมื่อทราบแล้วทำไมยังนิ่งเฉยปล่อยปละละเลย ไม่มาบอกกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ให้ทราบว่าการที่นายสำเริง แหวนเพชร กับพวกนำชี้ที่ดินให้สมาชิกก่อสร้างบ้านเรือนนั้นเป็นที่ดินของ ส.ป.ก.ลพบุรี นายสำเริง ไม่ได้เกี่ยวข้อง และไม่สิทธิ์ใดๆ ในที่ดินนี้ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ถูกหลอก แต่ ส.ป.ก.ลพบุรี ยังไม่ดำเนินการใดๆ เลย ผู้นำท้องถิ่นจึงเคลือบแคลงสงสัยอย่างมาก ทั้งนี้ กรณีที่เกิดขึ้น สำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เคยมีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีมีกลุ่มบุคคลประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนเข้าร่วมอบรมโครงการปลูกป่าใช้ชำระหนี้ โครงการสภาเครือข่ายประชาชนอีสาน (สอส.) ประชาชน 4 ภาค โดยมีการเรียกเก็บค่าลงทะเบียนอบรม ซึ่งกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้แอบอ้างเป็นโครงการของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด การกระทำดังกล่าวทำให้ประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน โดยการแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้สิน ที่ดินทำกิน และปัญหาอื่นๆ ของสภาเครือข่ายประชาชนภาคอีสาน (สอส.) ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของคณะกรรมการฯ จึงขอแจ้งเตือนประชาชนให้ระวัง และหากพบเห็นการกระทำอันเข้าข่ายหลอกลวงขอให้แจ้งดำเนินคดีกับบุคคล หรือกลุ่มบุคคลดังกล่าวอย่างถึงที่สุด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: