ลพบุรีปีนี้แล้งรุนแรงมาก ล่าสุด เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เหลือน้ำอยู่ไม่ถึงร้อย 10 ของความจุ ผอ.เขื่อน วอนประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อให้เพียงพอต่อการ อุปโภค-บริโภค ตลอดฤดูกาล ก่อนที่จะย่างเข้าสู่ฤดูมรสุม
สถานการณ์ภัยแล้งที่ลพบุรี ถึงแม้จะเข้าฤดูฝนมาแล้วกว่า 2 เดือน ก็ตาม แต่ปริมาณฝนตกลงมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก ทำให้หลายพื้นที่ต้องประสบภัยแล้ง โดยเฉพาะที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ในช่วงฤดูฝนของปีนี้ มีปริมาณฝนน้อยกว่าที่คาดการณ์ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่รับน้ำตอนบนเของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีค่าเฉลี่ยปริมาณต่ำสุดนับตั้งแต่ก่อสร้างเขื่อนมา 20 ปี ส่งผลให้ปริมาณน้ำกักเก็บน้อยลงตามไปด้วย ซึ่งภายจากมุมสูงจะเห็นว่า น้ำในเขื่อนเหลือน้อยมาก จนเห็นโขดหินดินทราย เหนือประตูระบายน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และน้ำไม่สามารถไหลผ่านประตูระบายน้ำ ทั้ง 7 บาน ได้แล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
- "เลยดั้น" แค่มุมภาพเดียว กลายเป็นไวรัล ดึงดูด นทท.แห่เช็คอินถ่ายภาพ อ.น้ำหนาวเตรียมดันเป็นซอฟพาวเวอร์
- แชร์สนั่น! ซอไม้ไผ่ สุดยอดนวัตกรรมดนตรีวัยรุ่นยุคใหม่ เท่อย่างไทยสู่สากล
- ชิง ส.อบจ.เพชรบูรณ์ ส่อเดือด! นักการเมืองรุ่นใหม่ทยอยเปิดตัว ท้าชนแชมป์เก่า
- พบช้างป่าอยู่ใกล้ที่ทำร้ายคนเสียชีวิตเร่งผลักดันหวั่นเกิดเหตุซ้ำ จ.ปราจีนบุรี
ทั้งนี้ นายอภิรักษ์ ศรีกุลวงศ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ กล่าวว่า สถานการณ์ฝนน้อยกว่าค่าเฉลี่ยในปีนี้ ทำให้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์กักเก็บน้ำได้น้อยกว่าที่คาดการณ์ เนื่องจากตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา แทบไม่มีน้ำไหลลงสูงพื้นที่เก็บน้ำของเขื่อนเลย ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณน้ำในเขื่อนเช้านี้ เหลืออยู่เพียง 78.24 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณร้อยละ 8.15 ของความจุ โดยยังไม่มีปริมาณน้ำฝนไหลเข้าพื้นที่รับน้ำของเขื่อน ซึ่งล่าสุดทางเขื่อน ไม่สามารถจะระบานน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน ผ่านทางประตูระบานน้ำทั้ง 7 บาน ได้แล้ว เนื่องจากระดับน้ำต่ำกว่า ธรณีประตูระบายน้ำ ทั้ง 7 บาน
ทั้งนี้ทางเขื่อนยังมีความจำเป็นต้องปล่อยน้ำเฉลี่ยวันละ 8 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน ด้วยวิธีการระบานน้ำผ่านสะดือเขื่อนแทน เพื่อเป็นการรักษาระบบนิเวศน์ เพื่อการอุปโภคบริโภคและบางส่วนพื้นเป็นการผลัดดันน้ำเค็มเท่านั้น ยังคงต้องขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันประหยัดน้ำ เพื่อเก็บน้ำไว้สำหรับอุปโภค บริโภค ให้เพียงตลอดฤดูกาล และขอความรวมมือเกษตรชาวนานาปี ให้ชะลอ หรือ เลื่อนการเพาะปลูกออกไปอีกระยะหนึ่งก่อน โดยขอให้รอไปจนกว่าจะมีฝนตกสม่ำเสมอก่อน หรือปลูกในช่วงเดือนสิงหาคม หรือ เพื่อลดความเสียหาย ต่อผลผลิตทางการเกษตรได้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: