จากเมื่อวันที่ 13 พ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากเกษตรกร ในพื้นที่ ต.หนองรี และ ต.ซับสมบูรณ์ อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี ว่าขณะนี้ได้เกิดเท้าปากเปื่อยโรคระบาดอย่างหนัก โรคลุกลามอย่างรวดเร็วยังไม่สามารถควบคุมได้ เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมต้องเร่งยาฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อตามเส้นทางเข้าออก ตามจุสกัดต่างๆ ป้องกันไม่ให้เชื้อลุกลามเข้าพื้นที่ฟาร์มที่ยังไม่เกิดโรค เนื่องจากขณะนี้มีวัวนมที่ป่วยตายไปแล้วหลายฟาร์ม กว่า 10 ตัว ซึ่งเกษตรกรเกรงว่าถ้าหากระบาดจนไม่สามารถควบคุมได้ น้ำนมที่ผลิตได้ต่อวันกว่า 70-80 ตันต่อวันใน อ.ลำสนธิ มูลค่าความเสียหายจากวัวป่วย ตาย และน้ำนมวันละนับล้านบาทนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 14 พ.ย. 61 นายธวัช ไชโย ปศุสัตว์ อ.ลำสนธิ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์โรคเท้าปากเปื่อยในโคนม อ.ลำสนธิที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ว่า จากการลงพื้นที่เก็บผลของเชื้อส่งพิสูจน์ที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งผลของโรคปากเท้าเปื่อยโคนม อ.ลำสนธิ เป็นชนิด A ลพบุรี ซึ่งยังคงต้องเฝ้าระวัง และต้องควบคุมให้อยู่ในวงจำกัด ซึ่งคาดว่าน่าจะสามารถควบคุมโรคปากเท้าเปื่อยได้ก่อนเดือนธันวาคม ซึ่งขณะนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประกาศเป็นเขตพื้นที่เฝ้าระวังโรคปากเท้าเปื่อยทั้งจังหวัดใน 11 อำเภอแล้ว
ปศุสัตว์อำเภอลำสนธิ ยังกล่าวอีกว่าขณะนี้ทางปศุสัตว์ ได้ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับเกษตรกร และได้จัดหน่วยเฝ้าระวังโดยมี ทางเจ้าหน้าที่ทหาร ชาวบ้าน เกษตรกร ในรัศมีรอบๆ 5 ในรัศมีกิโลเมตร ได้ตั้งจุดสกัด เฝ้าระวังพ่นยารถทุกคันที่ผ่านในพื้นที่ใกล้ฟาร์มที่ยังไม่มีโรคระบาด และทางเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ ปศุสัตว์อำเภอ ปศุสัตว์จังหวัดได้ทำตามขั้นตอน เฝ้าระวัง ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อฉีดวัคซีนกับโคนมทุกตัวเพื่อลดเชื้อ เมื่อสถานการณ์ของโรคปากเท้าเปื่อยสามารถควบคุมได้แล้วหรือวัวนมตัวสุดท้ายหายดีแล้ว ทางปศุสัตว์อำเภอลำสนธิก็จะลงพื้นที่จะทำต่อเนื่องไปอีก 10 วัน เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจายและให้แน่ใจว่าไม่มีเชื้ออยู่ในพื้นที่แล้ว
ในส่วนของทางเกษตรกรก็ยังมีความกังวลใจถึงเชื้อโรคปากเท้าเปื่อย A ลพบุรี อยู่ว่าจะสามารถควบคุมได้หรือไม่ โดยทางปศุสัตว์อำเภอลำสนธิ กล่าวว่าเชื้อที่แพร่ระบาดเกิดจากเกษตรบางรายไปซื้อวัวนมราคาถูกมาโดยที่ไม่รู้ว่าวัวติดเชื้อ ซึ่งปกติทางอำเภอลำสนธิไม่เคยปรากฏว่ามีโรคปากเท้าเปื่อยเกิดขึ้น หลังจากเกิดเชื้อได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ซึ่งทางปศุสัตว์ก็ได้ลงพื้นที่ฟาร์มที่เกิดโรคระบาด พบว่าเริ่มจากวัวนมเจ็บที่กีบเท้า ปากเปื่อย กินอาหารไม่ได้ ป่วยและตายในที่สุด จึงได้ทำการฝังกลบอย่างมิดชิดป้องกันเชื้อแพร่กระจาย และได้นำตัวอย่างเชื้อไปพิสูจน์ จนพบว่าโรคปากเท้าเปื่อยของวัวนมทีนี่เป็นชนิด A ลพบุรี ที่สามารถรักษาให้หายได้ แต่ต้องทำการควบคุมโรค ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งว่ามีวัวป่วยและล้มตายเพิ่มในแต่ละฟาร์ม
สำหรับเกษตรกรที่อยู่ในกลุ่มของสมาชิกสหกรณ์ เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้จัดชุดเฉพาะกิจ ลงพื้นที่อำเภอลำสนธิ จำนวน 4 ชุด ทั้งได้ร่วมประชุม กับนายอำเภอ กำนัน ผญบ. ผู้นำท้องถิ่น เกษตรกรทั้ง 49 หมู่บ้าน ให้เข้าใจถึงการป้องกัน ควบคุมดูแลวัวนม ทั้งได้จัดชุดดำเนินการพ่นยาตามจุดสกัดต่างๆ รอบรัศมี 5 กิโลเมตรในเส้นทางเข้าออกฟาร์ม ทุก 3 วัน และฉีดวัคซีนให้ฟรีกับวัวนมทุกตัวปีละ 3 ครั้ง หรือ 4 เดือนต่อครั้ง โดยที่ทางเกษตรกรไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
