เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 3 ส.ค. 2564 ร.ต.อ.เอกวิทย์ ทองทุ่ม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองลพบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุมีผู้จมน้ำบ่อร้างท้ายหมู่บ้านซอยอุดมทรัพย์ ถนน.นเรศวร11 ต.เขาสามยอด อ.เมือง ลพบุรี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมนักประดาน้ำร่วมเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์ 191 ได้นำกำลังอีกชุด ได้ไปรับตัวนายสมหวัง หรืออ้าย ศรีวงษ์ษา อายุ 54 ปี ที่บ้านพัก ที่ชาวบ้านอ้างว่าเป็นเพื่อนกับผู้ที่สูญหาย เดินทางมาที่บริเวณดังกล่าวด้วยกันตั้งแต่ช่วงเช้า ในสภาพเมาพูดจาไม่รู้เรื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสงสัยสาเหตุของการสูญหาย ซึ่งอาจเป็นการฆาตกรรม และต้องการให้ชี้จุดที่ลงน้ำด้วยกัน แต่กลับกลายต้องมาเป็นภาระของเจ้าหน้าที่และกู้ภัยฯ ต้องคอยช่วยเหลือเมื่อนายสมหวัง เมาหนักเดินโซเซตกลงไปข้างทาง ต้องช่วยกันอย่างทุลักทุเล
นายจำเนียร กระดิ่งทอง อายุ 64 ปี น้าชาย นายวรวิทย์ ทามาวงษ์ อายุ 46 ปี ผู้สูญหายเล่าว่า เมื่อช่วงเช้าทั้งคู่ได้ชักชวนกันมาที่สระแห่งนี้เพื่อเก็บสายบัว และผักกระเฉด ที่ขึ้นตามธรรมชาติ จนสายตนเห็นว่าไม่กลับบ้านกันสักที จึงได้มาตามหาพบเพียงกล่องใส่เสื้อผ้าของนายวรวิทย์ บนฝั่ง แต่ไม่พบตัวตะโกนเรียกก็ไม่มีเสียงขานรับ จนมาพบนายสมหวังเพื่อนคู่หูนอนเมาเหล้าขาวอยู่ริมตลิ่ง สอบถามถึงนายวรวิทย์ไปไหน ก็พูดจาไม่รู้เรื่องจึงได้พากลับบ้าน ด้วยความโมโห
นักประดาน้ำ 4 นาย ได้ระดมค้นหาจุดที่ทั้งสองคนลงไปเก็บสายบัว และผักกระเฉดที่น้ำลึกประมาณ 2-3 เมตร แทบทุกตารางเมตร ซ้ำๆนานกว่า 4 ชั่วโมง ก็ยังไม่พบศพ หลายคนสงสัยว่าหากจมอยู่สระนี้ต้องเจอแล้วแน่นอน ไม่นานนายประสิทธิ์ นางสำเภา พ่อและแม่นายวรวิทย์ และนางณัฐวิภา อ่อนตา อายุ 56 ปี น้าสาว เดินทางมาถึง โดยนางณัฐวิภา ได้จุดธูปจำนวน 16 ดอก เดินไปริมตลิ่งจุดที่นายวรวิทย์ลงสระ พร้อมกับกล่าวขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดา เจ้าป่า เจ้าเขา ที่สถิตอยู่ ณ.ตรงนี้เปิดทางให้ด้วย จะขอพาน้องกลับบ้าน โดยปักธูปลงดินริมตลิ่งไม่ถึงนาที ทุกคนต้องขนลุก โดยเฉพาะนางณัฐวิภา และไทยมุง เมื่อนักประดาน้ำ 2 นาย ที่ยืนอยู่นิ่งๆ ริมสระเพื่อรอนักประดาน้ำอีก 2 นายวนกลับ ตะโกนบอกเจอศพแล้วโดยปลายเท้าไปสะกิดกับศพซึ่งเป็นความเหลือเชื่อที่บอกไม่ได้ เพราะจุดที่พบศพนักประดาน้ำทั้ง 4 นาย ก็ค้นหาผ่านมาหลายต่อหลายรอบ
ทั้งนี้จากการตรวจสอบสภาพศพนายวรวิทย์ อยู่ในลักษณะนอนคว่ำหน้าก้นสระ ใส่กางเกงในสีฟ้าเพียงตัวเดียว ไม่พบบาดแผลและร่องรอยการถูกทำร้าย คาดว่าก่อนลงสระได้ดื่มสุรากับนายสมหวังจนเมา ประกอบกับไม่มีเสื้อชูชีพ และที่พยุงตัว จนทำให้เป็นตะคริว ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ขอความช่วยเหลือจากนายสมหวังก็ช่วยไม่ได้ ก่อนจมลงก้นสระดังกล่าว ซึ่งทางร้อยเวรเจ้าของคดีได้นำร่างส่งพิสูจน์สาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง ก่อนให้ญาตินำศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
