สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะยุติลงเมื่อใด ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตพุ่งขึ้นในแต่ละวัน ในสถานการณ์เช่นนี้ยังมีเรื่องราวของพระผู้เสียสละ พระผู้เป็นที่พึ่งยอมเป็นทุกอย่างให้ญาติโยม จากเจ้าคณะอำเภอ เจ้าอาวาส วันนี้รักษาการสัปเหร่ออีกตำแหน่ง ซึ่งในวันนี้หลวงพ่อถึงกับร้องให้ เสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตคราวเดียวกันถึง 2 ราย
วันที่ 26 ส.ค. 2564 ที่วัดพุน้อย อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี พระโสภณ พัฒนคุณ (เศรษฐีเรือทอง) เจ้าอาวาสวัดพุน้อย เจ้าคณะอำเภอหนองม่วง จ.ลพบุรี พร้อมด้วยพระลูกวัด แต่งกายด้วยชุด PPE จำนวน 4 รูป ยืนรอรับศพคุณปู่วัย 92 ปี ชาวบ้าน ต.สายห้วยแก้ว อ.บ้านหมี่ ลพบุรี ที่เข้ารักษาอาการป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 ที่ รพ.บ้านหมี่ ได้เสียชีวิตเมื่อเวลา 05.00 น. ของวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ รพ.บ้านหมี่ ขอความอนุเคราะห์จัดการฌาปนกิจให้ด้วย จากนั้นเวลา 10.00 น. มูลนิธิสว่างอริโยธรรมสถานได้นำศพมาเพื่อให้ทางวัดบำเพ็ญกุศลศพและทำการฌาปนกิจ โดยมีญาติและครอบครัวคุณปู่ร่วมในการฌาปนกิจเพียงไม่กี่คนด้วยความอาลัย
หลวงพ่อกล่าวว่าหลังจากได้รับการประสานจาก รพ.บ้านหมี่ ให้ดำเนินการจัดการเผาศพจากโควิดแล้ว ก็ยังมีญาติคนตายขอเร่งเวลาเผาเป็นช่วงสายได้ไหม ซึ่งหลวงพ่อแย้งว่าขอเป็นช่วงบ่ายจะดีกว่าไหม ทางญาติบอกว่าตอนบ่ายต้องรดน้ำศพอีกศพ หลวงพ่อถึงกับอึ้ง เมื่อได้ยินว่าเมื่อเผาศพปู่แล้ว บ่ายก็จะต้องรดน้ำศพย่าที่วัดใกล้บ้าน โดยหลวงพ่อได้กล่าวแสดงความเสียใจ และสอบถามถึงความสูญเสีย ซึ่งทางญาติเล่าว่าเมื่อวันที่ 12 ส.ค. ปู่อายุ 92 ปี ได้เข้ารับการรักษาโควิดที่ รพ.บ้านหมี่ หลังจากติดเชื้อมาจากคนในครอบครัว ผ่านไปประมาณ 1 อาทิตย์ ย่าวัย 81 ปี ก็มาติดเชื้ออีกคน ย่าได้เข้ารับการรักษาอาการจนดีขึ้น และได้มาพักรักษาตัวที่ศูนย์กักกัน ปู่กลับมาสิ้นใจเวลา 05.00 น. วันที่ 26 ส.ค. เมื่อย่าทราบข่าวว่าปู่เสีย ก็เกิดอาการเหม่อลอย ซึมเศร้าลงทันใดลูกหลานก็ได้เข้ามาปลอบใจว่าปู่ไปดี หมดทุกข์แล้ว ยิ่งทำให้ย่าคู่ทุกข์คู่ยากปู่ถึงกับน้ำตาไหล จนเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 26 ส.ค. ย่าก็มาจากลูกหลานไปอีกคน
นายโอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี ผู้ซึ่งเป็นหลานเขย เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังด้วยเสียงสะอื้น ว่าตนเองเป็นพนักงานขับรถใน อบต. แห่งหนึ่งใน อ.บ้านหมี่ จนท. ขับรถตระเวนรับส่ง ผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อโควิดมานับไม่ถ้วน แต่ก็ระวังป้องกันอย่างดีตามขั้นตอน แต่กลับมาติดเชื้อจาก พนักงาน อบต. นำเชื้อไปติดครอบครัวที่อาศัยอยู่จำนวน 9 คน ซึ่งมีทั้งภรรยาและลูกอีก 2 คน รวมถึงปู่และย่าที่ต้องมาเสียชีวิตในครั้งนี้ด้วย ยอมรับว่าเสียใจอย่างมาก ที่ประมาททำให้เกิดเหตุการณ์เศร้าสลดเช่นนี้ เชื้อลุกลามรวดเร็วมาก ทราบทีแรกก็เริ่มอาการปวดหัว มีน้ำมูกคล้ายไข้หวัด เจ็บคอ มีไข้ ไม่ได้กลิ่น ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเชื้อเดลต้า
ด้านหลวงพ่อก็กล่าวว่าตั้งแต่เผาศพโควิดมาเป็นศพที่ 7 แล้ว หลังจากสัปเหร่อหนีไป ศพนี้รู้สึกเสียใจ เศร้าใจจนร้องให้ สงสารครอบครัวที่ต้องสูญเสียคนทีรักไปพร้อมกันถึง 2 คน ยอมรับว่าขณะนี้ประชาชนที่เกิดวิกฤต จน เจ็บ จาก ญาติโยมที่เคยดูแลพวกมาตลอดระยะเวลาในสถานการณ์ปกติ ถึงเวลาที่วิกฤตเราลูกศิษย์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะต้องดูแลญาติโยมบ้างเช่นกัน หลวงพ่อจะขอทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำให้ถูกต้องตามประเพณี เพื่อดวงวิญญาณผู้ล่วงลับจะได้ไปสู่ภพภูมิที่ดี วันนี้ถือว่าเป็นการทำบุญใหญ่ให้กับคุณปู่ที่ล่วงลับไปอีกราย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: