เขื่อนป่าสักฯ ยังคงเพิ่มการระบายน้ำต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ส่งผลกระทบชุมชนท้ายเขื่อน น้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร หน่วยทหารเร่งอพยพประชาชน ข้นย้ายสิ่งของ ไปอยู่ในที่สูง
วันที่ 1 ต.ค. 2564 เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ยังคงประเพิ่มการระบายน้ำต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 หลังปริมาณน้ำเกินความจุ ทะลุ 100 % ไปตั้งแต่เมื่อวาน ตามที่มีการรายงานข่าวไปก่อนหน้าแล้ว ซึ่งขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณสูงสุด ในรอบหลาย 10 ปี โดยล่าสุดเช้านี้ ปริมาณน้ำ อยู่ที่ 1,027.27 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 107.01 % ของความจุปกติของเขื่อนที่ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยยังมีมวลน้ำเหนือไหลลงเขื่อนอยู่ที่ 117.62 ล้านลูกบาศก์ต่อวัน ทำให้ยังคงมีความจำเป็นต้องเปิดประตูระบายน้ำ ทั้ง 7 บาน เพื่อคงการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนอยู่ที่ 104.276 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน หรือ 1,206.90 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เนื่องจากปัจจุบันยังมีน้ำเหนือไหลลงเขื่อนในปริมาณมาก ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อน ในพื้นที่ชุมชนบ้านหนองบัว และ ชุมชนบ้านแก่งเสือเต้น มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อวานนี้อีก 50 เซนติเมตร ปัจจุบันเป็น 2 เมตร 10 เซนติเมตร
ด้านการช่วยเหลือ ล่าสุด กำลังพลจากกองร้อยบรรเทาสาธารณภัย กองพันรบพิเศษที่ 1 กรมรบพิเศษที่ 2 ค่ายเอราวัณ จังหวัดลพบุรี ได้จัดกำลังพล กว่า 10 นาย พร้อมเรือท้องแบนจำนวน 2 ลำ รถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ จำนวน 1 คัน และรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ อีก 1 คัน เร่งลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือ อพยพประชาชน 63 ครัวเรือน และข้นย้ายสิ่งของ ออกจากพื้นที่ ไปยังศูนย์อพยพชั่วคราว ที่ทางอำเภอพัฒนานิคม ได้จัดเตรียมไว้ล่วงหน้า จำนวน 6 แห่ง โดยหน่วยทหารยังคงปักหลักอยู่ในพื้นที่ ร่วมกับ ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลแก่งเสือเต้น เพื่อดูแลชั่วเหลือประชาชน ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสพภัยในพื้นที่ดังกล่าว ไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: