ตาวัย 72 ปี ลงตาข่ายในหนองน้ำกับได้จระเข้ 2 ตัวดุร้าย พลาดกัดมือหวิดขาด ชาวบ้านทราบข่าวต่างหวาดกลัว วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาซึ่งคาดว่าอาจหลุดมาจากฟาร์มที่อยู่ใกล้กันซึ่งอาจมีจระเข้ดุร้ายหิวโซอีกหลายตัว
วันที่ 6 พ.ย.2564 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งมีชาวบ้านออกไปลงตาข่ายหาปลาที่บริเวณหนองน้ำ และร่องสวนมะพร้าวหลังบ้านของนายลำดวน ปุราสะเน อายุ 68 ปี เลขที่ 232 ม.2 ต.บัวชุม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี แต่กลับติดจระเข้ตัวขนาดใหญ่จำนวน 2 ตัว ดุร้ายงับหวิดขา ซึ่งจากการสังเกตบริเวณโดยรอบเป็นทุ่งนา หนองน้ำ และร่องน้ำสวนมะพร้าว พบชาวบ้านจำนวนหนึ่งที่ทราบข่าวต่างเดินทางมายืนมุงดูจระเข้ 2 ตัว ถูกชาวบ้านช่วยกันมัดปากผูกล่ามไว้ใต้ต้นมะม่วงภายในสวน หลายคนตะลึง ต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำไมที่จุดตรงนี้ถึงพบจระเข้บ่อยครั้ง ซึ่งอาจจะเป็นเพราะหลุดออกมาจากฟาร์มที่ไม่แข็งแรงและไม่ได้มาตรฐานที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งจระเข้ทั้ง 2 ตัว ลักษณะดุร้าย ที่อาจเกิดจากความหิวโหย ซึ่งจระเข้ขนาดนี้สามารถทำร้ายประชาชนได้ถึงชีวิต ขอวิงวอนหน่วยงานและเจ้าของฟาร์มช่วยกวดขันดูแลเพื่อความปลอดภัยให้กับประชาชนในย่านนี้ด้วย
คุณตาตุ๋ย คอนเมฆ อายุ 72 ปี บ้านเลขที่ 122 ม.2 ต.บัวชุม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ชาวบ้านที่จับจระเข้ที่ติดตาข่ายได้เล่าว่า ช่วงเย็นวานที่ผ่านมาตนเองได้นำตาข่ายไปดักปลาไนที่หนองน้ำใกล้บ้าน ช่วงเวลาประมาณ 21.00 น.ของเมื่อวาน ตนได้ออกไปดูตาข่ายที่ลงไว้ที่จุดแรก ในหนองน้ำลึกประมาณ 2 เมตร ก็พบว่าจระเข้ตัวใหญ่ขนาดความยาว 170 ซ.ม.น้ำหนักประมาณ 30 กว่ากิโลกรัม ติดตาข่ายอยู่ จึงได้จับขึ้นมาจากน้ำ มัดปากแล้วนำไปผูกล่ามไว้ที่ใต้ต้นมะม่วงใกล้ร่องสวนมะพร้าว ต่อจากนั้นตนจึงได้เดินทางไปยามตาข่ายที่หนองน้ำจุดที่ 2 น้ำลึกประมาณ 2 เมตรเช่นกัน ซึ่งอยู่ห่างกันไปประมาณ 150 เมตร ซึ่งกลับพบว่าได้มีจระเข้ตัวขนาดใหญ่ยาว 2 เมตรน้ำหนักกว่า 40 กิโลกรัม ติดตาข่ายดิ้นตูมตามอยู่ในน้ำ ตนจึงได้ลงไปนำขึ้นมาจากน้ำ และระหว่างที่ตนกำลังจะจับจระเข้เพื่อมัดปากกลับถูกจระเข้สะบัดแว้งกัดตนเข้าที่มือด้านขวาเลือดไหลนอง แต่ตนก็ไม่ละความพยายามสามารถจับจระเข้ตัวที่ 2 มัดปากได้สำเร็จก่อนนำตัวไปผูกล่ามใต้ต้นมะม่วงคู่กัน ตนยอมรับว่าจระเข้ทั้ง 2 ตัว นี้ดุร้ายมากจากที่เคยจับจระเข้ในแหล่งน้ำนี้ได้แล้วจำนวนหลายต่อหลายตัว รวมถึงชาวบ้านย่านนี้ก็เคยจับจระเข้ได้ที่บริเวณแหล่งน้ำแห่งนี้จำนวนหลายตัว ซึ่งมีทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่เนื่องจากย่านนี้อยู่ติดกับฟาร์มจระเข้ ที่ผ่านมาเมื่อชาวบ้านจับจระเข้ได้แล้วแจ้งให้เจ้าของฟาร์มจระเข้ทราบทุกครั้งกลับได้รับการปฎิเสธว่าไม่ใช้จระเข้ที่หลุดรอดออกมาจากฟาร์มของตน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ว่าพื้นที่แห่งนี้จะมีจระเข้มาอยู่อาศัย ถ้าไม่ใช่จากฟาร์ม
ชาวบ้านที่เดินทางมายืนมุงดูกล่าวว่าในพื้นที่แหล่งน้ำบริเวณโดยรอบฟาร์มจระเข้แห่งนี้คาดว่ายังต้องมีจระเข้อีกจำนวนมาก เนื่องจากชาวบ้านที่เดินทางออกไปทุ่งนาต่างพบเห็นว่ามีรอยเท้า และเห็นเป็นตัวจระเข้ลอยอยู่ในหนองน้ำ ร่องสวนต่างๆ จึงอยากให้หน่วยงานรับผิดชอบลงตรวจสอบถึงลักษณะของจระเข้ว่าเป็นจระเข้จากธรรมชาติ หรือจระเข้จากฟาร์ม และช่วยล่าจระเข้ที่ยังคงหลงเหลืออีกหลายตัวให้หมดสิ้น เนื่องจากชาวบ้านหวาดผวาไม่กล้าออกไปในนา หรือออกทำประมง เพราะกลัวจระเข้ดุร้าย หิวโซเหล่านี้จะมารุมทำร้ายถึงชีวิต
