เวลา 12.30 น. วันที่ 28 พ.ย. 2564 ร.ต.อ.วีระพันธ์ ชื่นชม รอง.สว.(สอบสวน) สภ.เมืองลพบุรี ได้รับแจ้งมีคนผูกคอตายที่บ้านเลขที่ 33/1 หมู่ที่ 6 ต.ป่าตาล อ.เมือง ลพบุรี หลังวัดป่าหวายเก่า จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมทั้งได้ประสานแพทย์เวร รพ.พระนารายณ์มหาราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งลพบุรี ร่วมเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุมีเสียงร้องให้ระงมจากลูกเมียครอบครัวผู้เสียชีวิตลั่น ที่บนบ้านพบร่างนายสอนันท์ บัวไขย์ อาย 64 ปี นอนหงายอยู่ที่พื้นบ้าน สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนยาวสีฟ้า กางเกงขาสั้นสำดำ ยังสวมแมสก์ ซึ่งจากการชันสูตรพลิกศพที่ลำคอมีรอยรัดเขียวช้ำ คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1-2 ชั่วโมง ซึ่งจากการตรวจสอบใกล้ศพพบเชือกไนล่อนสีเขียวมัดโยงกับขื่ออยู่ 1 เส้น จากการสอบถามพบว่ามีนายปุญญพัฒน์ ณุวงษ์ศรี อายุ 17 ปี และนายอภิชัย บัวไขย์ อายุ 23 ปี ลูกและหลานเป็นผู้ที่ปลดเชือกนำร่างลงมาเพื่อการปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่ไม่ทันการนายสอนันท์ได้เสียชีวิตไปก่อนหน้าแล้ว
ด้านนางสุนีย์ บัวไขย์ อายุ 64 ปี ภรรยา ซึ่งร้องให้ฟูมฟายปริ่มจะขาดใจโดยมีลูกหลานและญาติพากันร้องระงม หลังจากหายโศกเศร้าได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินดูสาเหตุของสามีที่ต้องมาผูกคอตาย ซึ่งนางสุนีย์เล่าด้วยความโมโหว่า ปมเหตุในครั้งนี้มาจากเรื่องความบาดหมางการลุกล้ำที่ดินกับเพื่อนบ้านข้างเคียง ที่อ้างว่าทางผู้ตายล้ำเขตที่ดินของเขา จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ทีดินมาทำการรังวัดใหม่เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 4564 ที่ผ่านมา ซึ่งผลยังไม่ออกมาว่าใครเป็นคนลุกล้ำกันแน่ แต่ก็ทำให้สามีคิดมาก นอนไม่หลับ ซึ่งปัจจุบันทุกวันนี้สามีชอบช่วยเหลือสังคมชาวบ้านย่านนี้ทราบกันดี ซึ่งเป็นทั้ง อสม. อปพร.อาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยว และจิตอาสา
นายอภิชัย บัวไขย์ อายุ 23 ปี บุตรชายบุญธรรม เล่าทั้งน้ำตาว่าเมื่อเช้ายังเห็นพ่อคุยกับนายปุญญพัฒน์ หลานชาย เรื่องให้ไปถ่ายเอกสารเกี่ยวกับที่ดิน จนเวลาประมาณ 11.00 น. หลานชายเข้ามาหา กับพบว่าพ่อผูกคอกับขื่อบนบ้านแล้ว จึงช่วยกันนำร่างลงมาเพื่อปฐมพยาบาล แต่พ่อได้จากไปแล้ว ซึ่งตนเองและหลานยังสงสัยว่าพ่อเลิกดื่มเหล้าไปนานกว่า 10 ปี แต่เมื่อคืนเห็นว่าไปซื้อเหล้ามา คิดว่าเอามาผสมยาสมุนไพรแผนโบราณ ซึ่งคาดว่าพ่อคงคิดมากกินเหล้าย้อมใจ ก่อนคิดสั้นตัดปัญหาปมลุกล้ำที่ดินที่ยังไม่มีข้อสรุป ทั้งนี้ร้อยเวรเจ้าของคดีได้บันทึกสถานที่เกิดเหตุ สอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ ได้นำร่างส่งพิสูจน์ ที่ รพ.พระนารายณ์มหาราชอีกครั้ง ก่อนให้ญาตินำศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: