พ่อค้าก๋วยเตี๋ยวเลือดร้อนไม่พอใจหนุ่มใหญ่สั่งก๋วยเตี๋ยวตะโกนโวยวายได้ช้า ทำเสียงดังออกลูกนักเลงในร้าน เล่นเอาพ่อค้าก๋วยเตี๋ยวเลือดขึ้นหน้า ตักน้ำร้อนลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว สาดเข้าเต็มใบหน้ากระเด็นถูกลูกดวงตาสาหัสไม่ได้กินก๋วยเตี๋ยวแต่ถูกนำส่งโรงพยาบาล หลังเกิดเหตุพ่อค้าร้านก๋วยเตี๋ยวขอยอมรับผิด ชดใช้คู่กรณีโมโหหิว จำนวน 30,000 บาท สามารถตกลงกันได้ แต่ทางคดีทางพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันที่ 3 พ.ค.2565 เหตุพ่อค้าก๋วยเตี๋ยวเลือดร้อนเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของ วันที่ 2 พฤษภาคม 65 ที่ผ่านมา นายธารา แสงทองคำ อายุ 52 ปี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร้อยตำรวจเอก ณัฐพงษ์ วงษ์วัง พนักงานสอบสวน สภ.ท่าหิน ลพบุรี ในสภาพที่ศีรษะใบหน้า ดวงตาข้างขวา และที่ไหล่ซ้ายมีผ้าพันแผลเต็ม เพื่อขอให้ติดตามตัวพ่อค้าร้านก๋วยเตี๋ยวผู้ที่ใช้น้ำก๋วยเตี๋ยวสาดตัวเองจนได้รับบาดเจ็บมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ด้วย
นายธารา แสงทองคำ ผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งอยู่ในสภาพใบ้หน้าถูกน้ำร้อนลวกผิวหนังแดงจากการถูกความร้อน และดวงตาขวาก็ถูกน้ำร้อนกระเด็นเข้าตาเกือบบอด เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเองมีอาชีพรับรถลูกค้าอยู่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองลพบุรี วันเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 11.30 น. ตนกับเจ้าของร้านอาหาร มาแวะจอดรถเข้าไปสั่งก๋วยเตี๋ยวกินที่ร้านดังกล่าวเพียง 2 คน โดยเจ้าของร้านได้สั่งก๋วยเตี๋ยวเนื้อเปื่อย 1 ชาม ส่วนตนได้สั่งก๋วยเตี๋ยวหมู 1 ชาม แต่ด้วยเจ้าของร้านอาหาร ลูกพี่ของตนได้กินจนหมดชามแล้ว ส่วนตนเองก็ยังรอ รอ รอ รอ ยังไม่ได้กินก๋วยเตี๋ยวสักชาม รอจนนานผิดปกติ จึงตะโกนถามไปว่าเมื่อไรก๋วยเตี๋ยวจะได้กิน ทำไมยังไม่ได้ก๋วยเตี๋ยวซักที ลูกพี่ผมกินหมดชาม อิ่มไปแล้วทำไมถึงได้ช้าจังเลย ด้วยน้ำเสียงตนเป็นคนพูดเสียงดังอยู่แล้ว ทำให้พ่อค้าที่กำลังทำก๋วยเตี๋ยวอยู่หน้าร้านห่างเพียง 3 เมตร ได้ยินแล้วแล้วเกิดความไม่พอใจ ก่อนที่จะตักน้ำลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ ในหม้อใส่ถ้วย เดินมาแล้วสาดใส่ตนอย่างจัง น้ำร้อน ๆ ถูกใบหน้า และกระเด็นเข้าดวงตาได้รับบาดเจ็บก่อนลูกพี่จะพาส่งที่โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช หลังจากทำแผลแล้ว ตนเองจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำเบื้องต้นแล้วและทราบชื่อว่าผู้ก่อเหตุคือนายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ์ อายุ 45 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวดังกล่าวจึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปเชิญตัวมาพบกับพนักงานสอบสวน โดยผู้ก่อเหตุเจ้าของก๋วยเตี๋ยวเครื่องใน ได้ให้การกับพนักงานสอบสวน พร้อมกับยอมรับว่าเป็นคนเอาน้ำร้อนสาดผู้บาดเจ็บจริง เหตุที่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ หงุดหงิด เพราะตนเองไม่ชอบคนเสียงดัง ประกอบกับตนเป็นโรคลมชักมักมีอาการโมโหง่าย เมื่ออากาศร้อนระอุ ซึ่งได้ใช้น้ำลวกก๋วยเตี๋ยวในหม้อขณะเดือดตักสาดหน้า ลำตัว ผู้บาดเจ็บจริง ตนยอมรับผิด และขอโทษผู้บาดเจ็บด้วย เมื่อเกิดอาการโมโหตนเองจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว ถ้าสามารถเจรจาตกลงกับผู้เสียหายได้ตนก็พร้อม ซึ่งทางผู้เสียหายก็ได้เรียกค่าเสียหายจำนวน 50,000 บาท แต่ด้วยตนเองขอต่อรองเหลือ 30,000 บาท ซึ่งทางผู้เสียหายก็ยินยอมตกลงรับเงิน 30,000 บาท ในส่วนเรื่องคดีเป็นคดีอาญาซึ่งไม่สามารถยอมความได้จึงต้องให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน จากนั้นจึงได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้เสียหายต่อหน้าพนักงานสอบสวน และผู้สื่อข่าว หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนก็ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวที่เกิดเหตุ บริเวณเชิงสะพานข้ามแม่น้ำลพบุรี หมู่ที่ 1 ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมือง ลพบุรี เพื่อพบกับนางสำเนียง จีนเป็น อายุ 72 ปี แม่ของนายประสิทธิ์ ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเดินไม่ค่อยไหวเพราะเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม ได้เล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่าในช่วงเกิดเหตุฟังว่า ตนเองเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวมา 20 ปีเศษแล้ว ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้เลย ซึ่งตนเองยอมรับว่าลูกชายมีอาการป่วยเป็นโรคลมชักต้องไปหาหมอประจำ ปกติก็จะช่วยตนเองขายก๋วยเตี๋ยวบางครั้งก็เกิดเป็นลมชักขณะทำก๋วยเตี๋ยวต้องช่วยกันโกลาหล แต่ก็ไม่เคยทำร้ายใคร มาครั้งนี้คาดว่าลูกชายจะเครียดเพราะลูกค้าเสียงดังโวยวาย จนควบคุมตัวเองไม่ได้และได้ก่อเหตุไป
ขณะที่ทางด้านนายธารา ผู้บาดเจ็บก็ได้บอกกับนายประสิทธิ์ หลังจากลงบันทึกประจำวันเสร็จ ว่าจะไปแถลงต่อศาลว่าไม่ติดใจเอาความให้ในวันขึ้นศาล เพราะว่าเห็นใจที่ต้องทำมาหากินและยังป่วยเป็นโรคลมชัก ซึ่งเงินที่ให้ตนเองมาก็จะนำไปรักษาตัวเองโดยเฉพาะดวงตาให้หายดี ส่วนบาดแผลตรงอื่นอีกคงไม่นานคงหาย ซึ่งจะได้ทำมาหินกินตามปกติได้ต่อไป ก่อนเดินทางกลับนายธารากล่าวว่าตนเองก็คงจะต้องระมัดระวังตัวเองในเรื่องโมโหหิวเช่นกัน
