อดีตกำนัน อ.หันคา จ.ชัยนาท พร้อมพวกทีมงานรับจ้างกว่า 10 คน เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.โคกสำโรง ลพบุรี หลังจากถูกบริษัทผู้รับเหมาเบี้ยวค่าจ้างการทำงานโครงการจัดหาแหล่งน้ำและเพิ่มพื้นที่ชลประทาน รายการแก้มลิงบ้านหนองคู อ.โคกสำโรง ลพบุรี ทำให้หลายคนต้องเดือดร้อนอย่างหนัก ไม่ได้รับค่าจ้างรวมเป็นเงินกว่า 4 ล้านบาท ซึ่งทุกคนเกรงว่าเรื่องเงียบสูญเงิน กำนันตัวแทนผู้เสียหายจึงได้พาเข้าร้องกับสื่อมวลชนลพบุรี ก่อนเข้าร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลพบุรีที่เชื่อมั่นว่าจะได้รับความเป็นธรรม เร่งรัดจัดการขจัดความทุกข์เป็นที่พึ่งพิงของประชาชน
ที่ศาลากลางจังหวัดลพบุรี ได้มีผู้เสียหายจากการที่ถูกผู้รับเหมารับเบี้ยวเงินค่าจ้างทำงานโครงการแก้มลิงนำโดยนายนพดล สิทธิศรี อายุ 62 ปี อดีตกำนันตำบลวังไก่เถื่อน อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 10 ต.วังไก่เถื่อน อ.หันคา จ.ชัยนาท ได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนลพบุรี ว่า พวกตนได้นำเครื่องจักรกลหนัก พร้อมรถบรรทุก รถเกรด รถไถ กว่า 50 คัน คนงานอีกกว่า 60 คน เข้ามารับจ้างดิน ขุดพื้นที่บริเวณบ้านหนองคู ต.ห้วยโป่ง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ทำเป็นแก้มลิง อยู่ในพื้นที่ของศูนย์การบินทหารบก ต.เขาพระงาม อ.เมือง ลพบุรี ซึ่งการว่าจ้างงานดังกล่าวนั้นเป็นงาน โครงการจัดหาแหล่งน้ำและเพิ่มพื้นที่ชลประทาน รายการแก้มลิงบ้านหนองคู โดยหน่วยงานที่ดำเนินการคือ กองทัพภาคที่ 1 โดยกองพลพัฒนา 1 วันเริ่มต้นโครงการ วันที่ 19 มกราคม 2565 วันสิ้นสุดโครงการ 17 มิถุนายน 2565 รวมระยะเวลาดำเนินการ 150 วัน
โดยสาเหตุที่ต้องมาร้องกับสื่อมวลชนลพบุรี และศูนย์ดำรงธรรมในครั้งนี้ ก็เพื่อจะขอความเป็นธรรม ขอความช่วยเหลือ เนื่องจากโครงการดังกล่าว เป็นโครงการของหน่วยราชการ และหน่วยดำเนินการก็เป็นหน่วยงานราชการเช่นกัน ซึ่งพวกตนมั่นใจได้ว่าเป็นงานรับจ้างที่ดี ได้ค่าจ้างตามสัดส่วนการจ้างแน่นอน โดยพวกตนนั้นได้ ซับคอนแทรค (ผู้รับจ้างงานช่วง) มาจาก ห้างหุ้นส่วนจำกัด นครภานุรุจก่อสร้าง เลขที่ 404 หมู่ที่ 1 ต.ชะมาย อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โดยมี น.ส.ณัฐกฤดา วัฒนานนท์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมูที่ 2 ต.หนองหงส์ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เป็นผู้ว่าจ้าง ซึ่งหลังจากได้ทำงานได้ขอเบิกเงิน แต่ทางบริษัทฯ ได้จ่ายให้มาเพียงเล็กน้อย แต่ก็ยังมีความมั่นใจ เนื่องจากได้รับการยืนยันจากนายทหารที่มาคุมโครงดังกล่าวว่า ให้เร่งทำงานให้แล้วเสร็จตามวันเวลากำหนดให้แล้วเสร็จรับรองว่าได้เงินแน่นอน หลังจากนั้นพวกตนก็เร่งระดมหาทุนเติมน้ำมัน จ่ายคาแรงลูกน้องรายวัน จนทำงานแล้วเสร็จตามระยะเวลา จากนั้นได้ขอเบิกเงินจาก หจก.ดังกล่าว โดยทางบริษัทได้สั่งจ่ายเป็นเช็คเงินสด จำนวน 12 ใบ รวมเป็นเงินกว่า 4 ล้านบาท ให้กับกลุ่มของพวกตนโดย น.ส.ณัฐกฤดา วัฒนานนท์ ผู้ว่าจ้าง เป็นผู้เซ็นเช็คธนาคารกรุงไทย สาขาทุ่งสง ให้เมื่อวันที่ 10 ก.ค.65 แต่เมื่อพวกตนนำเช็ดไปขึ้นเงินปรากฏว่าทางธนาคารปฎิเสธการจ่าย ไม่สามารถเบิกเงินได้ เมื่อได้โทรทวงถามกับ น.ส.ณัฐกฤดา แต่ผู้แม่ของ น.ส.ณัฐกฤดา รับสายได้ตอบมาว่า”ถึงฆ่าให้ตายก็ไม่มีเงินจ่ายให้”
ซึ่งหลังจากนั้น วันที่ 13 ก.ค.65 พวกตนได้เดินทางไป สภ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี พบกับ ร.ต.อ.พายัพ รุ่งหัวไผ่ พนักงานสอบสวน สภ.โคกสำโรง ร้องทุกข์แจ้งความดำเนินดี พร้อมลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐาน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็ให้คำแนะนำเกี่ยวกับคดีดังกล่าวเป็นอย่างดี นายนพดล สิทธิศรี อดีตกำนันแกนนำกลุ่มผู้เสียหาย กล่าวว่าการที่พวกตนมาร้องกับสื่อมวลชนลพบุรีในครั้งนี้นั้นก็เพื่อต้องการให้ น.ส.ณัฐกฤดา ผู้ว่าจ้าง ได้จ่ายเงินค่าจ้างที่ติดค้างกว่า 4 ล้านบาท ให้กับพวกตนซึ่งในขณะนี้ทุกคนได้รับความเดือดร้อนจากการกู้หนี้ยืมสินเขามาทำงาน เพื่อหวังจะได้เงินมาจุนเจือครอบครัว ซึ่งมีบางรายต้องตัดใจปล่อยรถหลังจากถูกบริษัทไฟแนนซ์เร่งรัด บางรายก็ต้องจำใจขายเครื่องมือทำมาหากินนำเงินใช้หนี้ที่กู้ยืมมา ทางกำนันได้ทิ้งท้ายว่าอยากวิงวอนขอร้องให้หน่วยงานเจ้าของโครงการ และหน่วยงานดำเนินการโครงการฯ ที่มีศักยภาพได้ยื่นมือช่วยเหลือพวกตนที่ได้รับความเดือดร้อนจากผู้ว่าจ้างรายนี้ด้วย ก่อนที่ทั้งหมดจะเข้ายื่นหนังสือร้องเรียน รายชื่อผู้ได้รับความเดือดร้อน และเอกสารประกอบการร้องเรียน กับนายธานี แสงสง่า ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมลพบุรี โดยทาง ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมรับปากจะเร่งรัดจะส่งหนังสือด่วนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเหลือ และครูกรณี เพื่อขอเจรจาให้ดำเนินการจ่ายเงินให้กับผู้ร้อง ซึ่งทราบมาว่าไม่ต้องการดำเนินคดีขอเพียงเงินที่พึงจะได้ของพวกตน
