เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2565 เวลา 14.43 น. นายอาทิตย์ สุขแผ่นทอง อายุ 32 ปี เจ้าของร้าน IN-CEE ตั้งอยู่หน้าสถานีรถไฟบ้านหมี่ เข้าพบกับ พ.ต.ท.พิทักษ์ จตุพิพิธพร พนง.สอบสวน .สภ.บ้านหมี่ แจ้งว่าเมื่อวันที่ 15-16 ต.ค .ตนเองได้ปิดร้านไปทำธุระ เมื่อกลับมาเปิดร้านเมื่อวันที่ 17 ต.ค. พบว่าที่ร้านมีร่องรอยการงัดแงะเข้ามารื้อค้น ซึ่งจากการตรวจสอบภายพบสิ่งของมีค่าจำพวกพระเครื่อง เงินเหรียญ และอื่นๆ เกือบ 20 รายการที่สูญหายไป พนง.จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐาน และได้ประสานตำรวจงานสืบสวน สภ.บ้านหมี่ ลงพื้นที่หาข่าว ตรวจกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง
พ.ต.อ.อดิศร บุญประทีป ผกก.สภ.บ้านหมี่ พ.ต.ท.เปรมวิชช์ พลนันท์หิรัญ รอง ผกก.สส.ฯ มอบหมายให้ ร.ต.อ.นิสิต ทะอินทร รอง สว.สส.ฯ ลงพื้นที่หาข่าว ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะผ่าน จนเมื่อเช้าวันที่ 25 ต.ค. 2565 ตำรวจก็ได้เบาะแส พบผู้ต้องสงสัย และตำหนิรูปพรรณ ตรงกับนายประทิน หรือตี๋ รังสิโย อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 หมู่ที่ 1 ต.สนามแจง อ.บ้านหมี่ ลพบุรี ในกล้องวงจรปิดที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเดินเข้าออกตามร้านต่างๆ ของผู้อื่นในยามวิกาล
วันที่ 25 ต.ค. 65 เวลาประมาณ 13.30 น. ตำรวจงานสืบสวน สภ.บ้านหมี่ ได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านของนายประทิน หรือตี๋ เมื่อเห็นตำรวจ นายตี๋ได้แสดงอาการพิรุธ ตกใจและกำลังจะหลบหนี แต่ตำรวจสามารถตะครุบตัวไว้ได้ ทำการตรวจค้นภายในบ้านพบเสื้อกันหนาวแขนยาวสีเทา จำนวน 1 ตัว หมวกแก๊ป สีดำ 1 ใบ และพบลำโพงบลูทูธ 1 เครื่อง ซึ่งเป็นเสื้อและหมวกที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ รวมถึงลำโพงบูทูธที่ผู้เสียหายยืนยันเป็นของตนที่หายไปกับพระเครื่องจำนวนมาก เมื่อจำนนต่อหลักฐานนายตี๋ จึงเปิดปากว่าเป็นคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุตามกล้องวงจรปิดจริง ซึ่งจากการตรวจหาสารเสพจากปัสสาวะในร่างกายพบว่ามีสารเสพติด ซึ่งได้รับสารภาพติดยาบ้าอย่างงอมแงม ไม่มีเงินก็ออกตะเวนลักของ งัดร้านต่างๆ นำเงินมาซื้อยาบ้าเสพ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านหมี เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย ท่ามกลางความโล่งใจของประชาชน พ่อค้าแม่ขาย ร้านค้าในตลาดบ้านหมี่ ขอบคุณตำรวจที่สามารถจับกุมได้ ไม่ต้องมาหวาดระแวงของหายในช่วงเวลากลางคืนเช่นที่ผ่านมา
