คุณตาลพบุรีวัย 70 ปีที่เก็บหอมรอมริบไว้ให้ลูกหลาน และใช้ในยามแก่เฒ่า โดนแก๊งถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ชายหญิง 3 คนสวมบทบาทสาวพม่า และเจ้าหน้าที่ธนาคาร รวมหัวกันหลอกพาไปถึงธนาคารเบิกเงินสด 300,000 บาท ก่อนหลอกซ้ำนำมาทิ้งหน้าบ้านก่อนเชิดเงินหนีลอยนวล ตำรวจแกะรอยกล้องวงจรปิด เร่งไล่ล่า คาดคนร้ายแก๊งนี้วางแผนรอบคอบรัดกุม
เหตุการณ์คุณตาวัย 70 ปี ชาวนาขายข้าวเก็บเงินมาถึงชั่วชีวิตครึ่งล้านบาท หวังเตรียมให้หลานชายตอนโต แต่กลับมาถูกแก๊งมิจฉาชีพอ้างเป็นชาวพม่าถูกรางวัลที่ 1 แต่ขึ้นเป็นเงินไม่ได้ เนื่องจากไม่มีบัตรประชาชน ก่อนเพื่อนร่วมแก๊งอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร สามารถทำเบิกเงินได้ เสนอส่วนแบ่งล่อใจให้คุณตาหลงเชื่อพาไปเบิกเงินสดๆ ความลิงโลดที่จะได้ส่วนแบ่งก้อนโตต้องหายวับไปกับความรู้เท่าไม่ถึงการณ์เสียท่าแก๊งนี้ไปอย่างน่าเสียดาย
นายวินัย ขำดี อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 9 ตำบลบางงา อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ประกอบอาชีพเกษตร ทำนา ผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ต. ภูษิต ม่วงหมู่ พนักงานสอบสวน สภ.ท่าวุ้ง ลพบุรี โดยเล่าว่า เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 เวลาประมาร 09.00 น. ขณะยืนกวาดใบไม้อยู่ลานหน้าบ้าน จังหวะนั้นได้มีหญิงวัยกลางคนอายุประมาณ 45-50 ปี เดินมาหยุดยืนหน้าประตูบ้านลักษณะมาเร่ขายเสื้อผ้า และชักชวนตนพูดคุยเรียกตนเองว่าพ่อๆๆๆ มาดูผ้าไว้ใช้ไหม สำเนียงคล้ายคนต่างชาติ จากนั้นไม่นานทำท่ากระซิบกระซาบบอกกับตนว่าถูกรางวัลที่ 1 แต่ด้วยเป็นคนต่างชาติ จึงไม่สามารถไปขึ้นเงินได้ พร้อมกับหยิบเอาลอตเตอรี่ มาให้ดูเห็นแต่เลขท้ายหมายเลข 06 จู่ๆได้ร้องไห้โฮต่อหน้าตน และช่วงจังหวะเดียวกันนั้น ก็มีรถเก๋งสีเทาขับเข้ามาจอด มีชายหญิงแต่งตัวภูมิฐานเดินลงจากรถมายืนฟังอยู่สักครู่ พร้อมกับอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินมาทำธุระบริเวณนี้พอดี กล่าวว่าลอตเตอรี่ใบนี้ที่ถูกรางวัลที่ 1 สามารถไปขึ้นเงินได้แน่นอน มูลค่าถึง 6,000,000 บาท และเสนอให้ตนมีส่วนแบ่งกันคนละครึ่ง เจ้าหน้าที่ธนาคารมีเงินสดอยู่ประมาณ 700,000 แสนบาท ลุงลงทุนแค่ 300,000 แสนบาท ส่วนหญิงพม่าเจ้าของลอตเตอรี่ บอกขอเพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น ไม่รู้อะไรดลใจหลงเชื่อ แต่งตัวขึ้นรถเก๋งไปเบิกถอนเงินสดในบัญชีที่ธนาคารเพื่อการเกษตรสาขาบ้านหมี่ โดยตนถอนเงินจำนวน 300,000 บาท ต่อจากนั้นได้พาตนนั่งรถขับกลับมาที่หน้าบ้าน ระหว่างทางหญิงที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารให้ตนเอาเงินที่เบิกมา 300,000 บาท ใส่ถุงกระดาษไว้เป็นเงินกองกลางรวมไว้ก่อน หลังจากมาถึงหน้าบ้านได้จอดรถเก๋งแล้วบอกให้ตนลงรถรออยู่หน้าบ้านก่อนอย่าไปไหน จะขอไปส่งหญิงพม่าขึ้นรถกลับบ้านที่ปากทางสักครู่เดียวจะกลับมา จากนั้นทั้ง 3 คนได้หายไปนาน ตั้งสติได้จึงรู้ว่าถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกเข้าแล้ว ทำให้สูญเงินไปจำนวนมาก
หลังจากแจ้งความแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานกับทางธนาคารเพื่อการเกษตร และเทศบาลเมืองบ้านหมี่ เพื่อขอดูกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจสอบพฤติการณ์คนร้าย พบว่ารถร้ายใช้รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้ารุ่นวีออส สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียน ฎธ 9840 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นป้ายทะเบียนปลอม วิ่งผ่านตามเส้นทางขณะขับมามาจอดหน้าธนาคารคนร้ายทั้ง 3 ไม่ยอมลงรถ มีนายวินัย ลงรถเพียงคนเดียวเข้าไปถอนเงินจากธนาคารใช้เวลาประมาณ 20 นาที นายวินัย ได้ออกจากธนาคารมาขึ้นรถคนร้ายขับมุ่งหน้าไปทางท่าวุ้ง เพื่อไปส่งนายวินัย ที่บ้านก่อนใช้กลอุบายพากันหลบหนีไป
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง "เมนูลูกปลาปิ้งเครื่อง" จับปลาสดๆจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ปรุงเป็นอาหารพื้นบ้านแสนอร่อย
- บุรีรัมย์ คริสตจักรเมืองบุรีรัมย์ จัดงานเฉลิมฉลองวันคริสต์มาส ส่งความสุขก่อนปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่
- กาญจนบุรี พิธีตักบาตรพระ 10,000 รูป ฉลองตั้งเมือง 193 ปี พร้อมอุทิศส่วนกุศลแด่บรรพบุรุษผู้มีพระคุณต่อประเทศชาติ
- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขานรับนโยบายกระทรวงคมนาคม พร้อมอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568
นายวินัย กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้า อิดโรยเนื่องจากคิดมากนอนไม่หลับทั้งคืน โดยมีญาติคอยปลอบใจอยู่ไม่ห่าง กล่าวว่ารู้สึกเสียดายเงินที่คนร้ายได้ไป เงินจำนวนนี้เป็นเงินตนเก็บเล็กผสมน้อยมานานมากจากรายได้จากการขายข้าว มีเงินในบัญชีนี้มีทั้งหมด 500,000 กว่าบาท ตั้งใจจะเก็บไว้ให้เป็นขวัญถุงให้กับหลาน 2 คนในอนาคต แต่มาถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกเอาเงินไปแบบง่ายๆ ทั้งที่ตนเองก็เคยเห็นข่าวหลอกลวงเช่นนี้บ่อยๆ แต่ไม่รู้ว่าอะไรมันดลใจ อยากได้เงินแบบง่ายๆ เช่นกัน จนต้องมาเสียดายไปกับเงินก้อนจำนวนนี้ หากมันขอลงทุน 500,000 บาท ก็คงถอนให้พวกมันไปหมด อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามคนร้ายรายนี้ให้ได้ เพื่อจะได้ไม่ไปก่อเหตุเช่นนี้กับใครอีก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: