วันที่ 2 พ.ค.62 ภายใต้การอำนวยการของ นายศรีชัย ตัณฑะโสภณ นายอำเภอเมือง ลพบุรี ได้สั่งการให้ ว่าที่ ร.ต.กานต์ พิทักษ์เตชกุล ปลัดฝ่ายความมั่นคง อำเภอเมืองลพบุรี ตำรวจงานสืบสวน สภ.เมือง ลพบุรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.ทะเลชุบศร ผู้ช่วย ชุดเฉพาะกิจทะเลชุบศร และกำลัง อส.เมืองลพบุรี ได้ร่วมกันระดมสรรพกำลังเข้าพื้นที่ ต.ถนนใหญ่ อ.เมือง ลพบุรี หลังจากได้รับแจ้งจากสายลับว่า ที่บ้านเลขที่ 234/180 หมู่ที่ 1 (หมู่บ้านธาราทิพย์) ต.ถนนใหญ่ มีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับเด็กๆ และเยาวชน รวมถึงประชาชนทั่วไป อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการวางแผนในการเข้าจับกุม โดยทำการล่อซื้อยาบ้าจำนวน 20 เม็ด ในราคาเม็ดละ 60 บาท จำนวนเงิน 1,200 บาท โดยแบ่งกำลังออกเป็น 3 สาย โอบล้อมหมู่บ้านดังกล่าวไว้ รวมถึงใช้เจ้าหน้าที่ปิดเส้นทางเข้า ออกภายในหมู่บ้าน เพื่อป้องกันการหลบหนี จากนั้นได้ใช้รถยนต์มุ่งตรงไปที่บ้านเป้าหมาย แต่พบว่านักค้ายาเสพติดรายสำคัญ จอดรถจักรยานยนต์อยู่ที่สวนสาธารณะภายในหมู่บ้าน ที่เพิ่งจำหน่ายให้กับลูกค้า(สายลับ) จึงได้ทำการจับกุมได้โดยละม่อม ทราบชื่อนายพัฒน์ชนินท์ ( หรือป่าน) ทิพย์สมบัติ อายุ 32 ปี ค้นพบในตัวพบธนบัตรที่ทำการล่อซื้อ จำนวน 1,200 บาท ที่นายพัฒน์ชนินท์ ขว้างทิ้งตกเรี่ยราดบนพื้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการบันทึกคลิปวีดีโอเอาไว้ได้ พร้อมด้วยรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน 1 กฒ-3283 ลพบุรี 1 คัน จึงได้นำตัวไปเพื่อตรวจค้นที่บ้าน พบยาบ้าซุกซ่อนภายในตู้เสื้อผ้าอีกจำนวน 422 เม็ด รวมที่ล่อซื้อจำนวน 442 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 0.85 กรัม พร้อมอุปกรณ์ในการเสพอีกหลายชุด จึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลาง มาสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมที่ ศปก.งานสืบสวน สภ.เมืองลพบุรี ในเบื้องต้นนายพัฒน์ชนินท์ หรือป่าน ให้การปฎิเสธว่ายาบ้า ยาไอซ์ และอุปกรณ์การเสพทั้งหมดเป็นของเพื่อนที่นำมาฝากไว้กับตน
ด้านปลัดฝ่ายความมั่นคง และเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวนไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนายพัฒน์ชนินท์ หรือป่าน เนื่องจากได้รับรายงานจากสายลับ และผู้ที่ทำการล่อซื้อว่านายป่าน เป็นเอเย่นยาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ โดยมีประชาชนร้องเรียนถึงพฤติการณ์ในการจำหน่ายยาเสพติดให้กับเด็ก เยาวชน และประชาชนในพื้นที่มาเป็นเวลานานโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ซึ่งการวางแผนจับกุมในครั้งนี้ ถือเป็นการตัดวงจร เครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ ที่แพร่ระบาดอย่างหนักในพื้นที่จังหวัดลพบุรี และรอยต่อ ซึ่งจะต้องทำการสอบสวนเพื่อขยายผลถึงต้นตอ และตัวการเครือข่ายยายเสพติดรายใหญ่ที่ยังคงกบดาน ลอยนวลอยู่ในพื้นที่
