เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 มิ.ย.62 ตำรวจ สภ.โคกสำโรง ได้รับแจ้งจาก ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอโคกสำโรงว่ามีเด็กนักเรียนชาย ม.2 เกิดอาการเครียดปีนหน้าต่างอาคารเรียนชั้นที่ 2 ออกไปยืนเกาะวงกบหน้าต่าง โดยไม่มีท่าทีจะยอมลงมาหลังจากที่ครูและเพื่อนๆเจรจา เกลี้ยกล่อมนานนับชั่วโมง ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานขอเบาะลมจากหน่วยงานของจังหวัดให้ด้วย เนื่องจากเด็กเริ่มอ่อนล้า เกรงจะพลัดตกลงมา ซึ่งขณะนี้ทางโรงเรียนได้เร่งระดมขนย้ายที่นอน หมอน ผ้าห่มในห้องปฐมพยาบาลมารองที่พื้น เพื่อเป็นการป้องกันในเบื้องต้นแล้ว
หลังจากได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกสำโรง และสมาคมกู้ภัยโคกกสำโรงสงเคราะห์ ได้รุดเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ และได้ประสานงานขอเบาะลมจากทางจังหวัดลพบุรี และตามหน่วยงานต่างๆ แต่เบาะลมชำรุด จึงได้ประสานไปยังเทศบาลเมืองอำเภอพระพุทธบาท สระบุรี เพื่อขอให้เร่งรุดเดินทางมาเพื่อทำการช่วยเหลือให้ทันเวลา โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันนักเรียนทั้งหมดออกนอกพื้นที่เพื่อลดการกดดัน เหลือไว้แต่เพียงเจ้าหน้าที่ระวังเหตุเบื้องล่างเพียงไม่กี่คน โดยมี ปู่และย่า ผู้ปกครองของเด็กชายมา เจรจา เกลี้ยกล่อม และ สภ.โคกสำโรง ได้ติดต่อไปยัง ร.ต.อ.สมยศ พวงแก้ว อดีตข้าราชการตำรวจ ที่ ด.ช. เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียนผู้ที่จะทำร้ายตัวเองไว้ใจมาพูดคุยเจรจานานนับชั่วโมง แต่ก็ไม่เป็นผล และเด็กชายมีอาการอิดโรย เมื่อยล้า ท่ามกลางความวิตกกังวลของผู้ปกครอง ครู และเพื่อนนักเรียน เกรงว่าจะเจรจาไม่เป็นผลสำเร็จ และเบาะลมก็ยังมาไม่ถึง ซึ่งความกดดันดังกล่าวผ่านมากว่า 2 ชั่วโมงแล้ว
ท่ามกลางความระทึก นายสำรวย วัฒนวงศ์ ผอ. รร. ได้รับแจ้งว่า น.ส.พิกุล บุญแก้ว ครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์ และครูประจำห้องพยาบาลโรงเรียน มีความสนิทสนม และเคยพูดคุยกับ ด.ช.เอ(นามสมมุติ) จึงได้ให้ทดลองมาพูดคุย เจรจา กันตัวต่อตัวที่ริมหน้าต่างอาคารเรียน ผ่านไปประมาณ 15 นาที เด็กชาย เอ (นามสมมุติ) ก็ยอมปีนกลับเข้าไปในอาคารเรียน ท่ามกลางความโล่งอกของผู้ที่ดูอยู่อย่างลุ้นระทึก พร้อมกับเสียงปรบมือดังกึกก้องทั่วทั้งโรงเรียน
จากการสอบถามนายสำรวย วัฒนวงศ์ ผอ. รร. กล่าวว่าเมื่อช่วงเวลาประมาณ 13.00 น.ตนเองจะเดินทางไปประชุม แต่ได้รับแจ้งว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นจึงได้อยู่ดูสถานการณ์ ซึ่งตนเองได้รับรายงานจากครูประจำชั้นมาแล้วว่า ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี เด็กนักเรียนชั้น ม.2 คนนี้มีอาการทางจิต เมื่อเครียดหรือโมโห จะใช้ศรีษะโขกกับโต๊ะเรียน ผนังอาคาร และเคยปีนอาคารเรียนเพื่อโดดมาครั้งหนึ่งแล้วแต่เพื่อนนักเรียนได้ห้ามเอาไว้ได้ทัน คณะครู และครูฝ่ายปกครองจึงได้ไปปรึกษากับผู้ปกครอง ของเด็กชายเอ ซึ่งอาศัยอยู่กับปู่ ย่าและญาติ เพื่อให้พาไปพบจิตแพทย์เพื่อทำการรักษา เยียวยาทางจิตใจ ซึ่งดูแล้วว่าอาการของเด็กยังไม่กำเริบมากนัก แต่ยังไม่ทันได้พาไปพบแพทย์ จนมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเสียก่อน
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: