ภายใต้อำนาจของ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรชาน รอง ผบ.ตร.(ปป)/ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผอ.ตร.(ปป6)/รอง ผอ.ศอ.ปร.ตร. นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รักษาการเลขาธิการ ปปง. และ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงษ์เมือง และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยระดมสรรพกำลังลงพื้นที่เป้าหมายในพื้นที่
โดยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 ก.ค. พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.)พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบก.ปส.2 , พล.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคล ผบก.ปส.3 และ พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง บช.ปส 3 นำกำลังสยบไพรี เข้าปิดล้อม เครือข่าย “หลงจู๊”
พล.ต.ท.ชินภัทร เปิดเผยว่า วันนี้เราได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นจับกุมบุคคลตามหมายจับมาดำเนินคดี และตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่อง จำนวน 40 เป้าหมาย ในพื้นที่จ.สระบุรี 23 จุด จ.ลพบุรี 7 จุด จ.พระนครศรีอยุธยา 3 จุด จ.นนทบรุี 1 จุด จ.ปทมุธานี 1 จุด กรุงเทพมหานคร 3 จุด จ.ชัยภูมิ 1 จุด และ จ.นครราชสีมา 1 จุด
พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวต่อว่า หลังจากที่ บก.ปส.2 สืบสวนและขยายผลคดียาเสพติดรายสำคัญ ไม่เฉพาะในเขตรับผิดชอบเท่านั้น โดยเรามีการขยายผลไปยังพื้นที่ ที่กลุ่มเครือข่ายใช้เป็นแหล่งพักยา ซุกซ่อน แปรสภาพทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดเพื่อเป็นการขุดรากถอนโคน ทั้งกลุ่มผู้ลำเลียง กลุ่มผู้ดูแลการค้ายาเสพติดผู้เกี่ยวข้องทางบัญชี ตลอดจนกลุ่มผู้เป็นนอมินี ถือทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดแทน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลพบุรี สามารถจับกุมตัว นายโอกาส หรือ ต๊อก สาลี พร้อมยาบ้า 176,000 เม็ด ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การซัดทอด นายพงศกร หรือ โต้ง ศรีสรวง และจากการสืบสวนขยายผลปรากฏพยานหลักฐานว่า นายพงศกร นายศุภชัย หรือ นิว แก้วชัยมี และ น.ส.ปรารถนา หรือ แต้ว ลาระลม ภรรยานายพงศกร เป็นผู้สั่งการอยู่เบื้องหลัง
ประกอบกับเมื่อปี 2561 นายพงศกรถูกเจ้าหน้าที่ตำรวย บก.ปส.2 จับกุมดำเนินคดีตามความผิดฐานฟอกเงิน โดยปรากฏข้อมูลการสืบสวนพบว่า นายพงศกรเป็นผู้อยู่เบื้องหลังคดียาเสพติดหลายคดี แต่ในขณะนั้นยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดีตามพ.ร.บ.มาตรการฯ ได้ การดำเนินการจึงให้ทางพนักงานสอบสวนขออนุมัติออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องตามพ.ร.บ.มาตรการฯ 2 คน และดำเนินคดีตามพ.ร.บ.ฟอกเงิน 1 คน
โดยดำเนินการปิดล้อมเครือข่ายของ “หลงจู๊” ตามจุดต่าง ๆ พร้อมตรวจยึดทรัพย์ได้รวมทรัพย์สินมูลค่า ประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่ง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้เดินทางมาแถลงผลการปฏิบัติการอย่างละเอียดกับสื่อมวลชนที่รอทำข่าวอย่างเนืองแน่น
สำหรับยุทธการสยบไพรี 62/18 เครือข่าย “ปิดจ๊อบ หลงจู๊” เพื่อทำลายเป้าหมายและตรวจยึดทรัพย์ของกลุ่มนักค้ายาเสพติดรายสำคัญดังกล่าว มีผลการปฏิบัติดังนี้
1. จับกุมตัวผู้ต้องหาสำคัญในเครือข่ายดังกล่าว จำนวน 1 คน
1.1 นายศุภชัย หรือนิว แก้วมีชัย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 319/2562 ลง 18 ก.ค.62 ข้อหาสมคบกันกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
2. ของกลางยาเสพติด (ไม่มี)
3. ยึดทรัพย์สินได้ ดังนี้
3.1 บ้านที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 3 หลัง มูลค่าประมาณ 15,500,000 บาท
3.2 คอนโดมิเนียม 1 ห้อง มูลค่าประมาณ 7,000,000 บาท
3.3 อาคารพานิชย์ 5 คูหา มูลค่าประมาณ 3,4000,000 บาท
3.4 ที่ดิน เนื้อที่ 6ไร่ มูลค่าประมาณ 30 000,000 บาท
3.5 ทองรูปพรรณ มูลค่าประมาณ 1,500,000 บาท
3.6 รถยนต์ (เก๋งและกระบะ) จำนวน 7 คัน มูลค่าประมาณ 9,000,000 บาท
3.7 รถจักรยานยนต์ จำนวน 9 คัน มูลราคาประมาณ 3,000,000 บาท
3.8 ตู้เซฟ จำนวน 1 ตู้ (เปิดไม่ได้)
รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดเบื้องต้น ประมาณ 100 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่นๆอยู่ระหว่างการตรวจสอบติดตาม
