วันที่ 26 ก.ค. 62 ร.ต.อ.ศุภชัย กอกัน รอง สว.(สอบสวน) สภ.โคกตูม อ.เมือง ลพบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.โคกตูมว่า มีเหตุคนคอตายที่ หมู่ที่ 2 ต.โคกตูม จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวน แพทย์เวร รพ.พระนารายณ์มหาราช และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุท้ายบ้านมุงด้วยเพิงสังกะสี ซึ่งเคยเป็นสถานที่เลี้ยงกุ้ง มีชาวบ้านและญาติของผู้ตายยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำำรวจอยู่จำนวนหนึ่ง ที่ข้างเสาพบศพนายสุชาติ ยิ้มพ่วง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู 2 ต.โคกตูม อ.เมือง ลพบุรี ในสภาพกึ่งนั่ง หัวเข่าแตะพื้นดิน มีรองเท้าสีเขียวและผ้าขนหนูสีเหลืองตกใกล้ศพ โดยผู้ตายใช้เชือกผูกโยงกับขื่อหลังคามัดคอตัวเอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงได้ปลดศพเพื่อทำการชันสูตรพลิกศพ ในเบื้องต้นพบที่ลำคอมีรอยรัดจนเขียวช้ำ ร่างกายไม่พบบาดแผล คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5-6 ชั่วโมง
ข่าวน่าสนใจ:
จากการสอบสวนนายสมสักดิ์ (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี เพื่อนบ้านเล่าว่า ตนเองเดินมาดูไร่ข่าวโพดท้ายบ้าน เห็นว่านายสุชาติยืนพิงเสา จึงได้ตะโกนทัก แต่ไม่มีเสียงขานรับ จึงได้เดินมาหา ต้องต้องใจสุดขีดเมื่อพบว่านายสุชาติผูกคอตายแล้ว จึงได้กลับไปบอกกับญาติให้ทราบ ทันทีที่ทราบเรื่องน้องสาวผู้ตายได้วิ่งมาดูเมื่อเห็นศพพี่ชายถึงกับเป็นลมล้มพับ ต้องทำการปฐมพยาบาลกันจนฟื้น ให้การว่าพี่ชายป่วยด้วยโรคซึมเศร้า มีโรคประจำตัวบ้าง และบ่นเครียดเรื่องความแห้งแล้ง ฝนไม่ตก พืชผักที่ลงทุนปลูกไว้ก็เริ่มเหี่ยวเฉายืนต้นตาย ซึ่งทางครอบครัวก็ได้แต่ให้กำลังใจ ต่อสู้กับสภาพและความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าพี่ชายที่แสนดี ขยันขันแข็ง รักครอบครัวต้องมาจบชีวิตเช่นนี้ ทั้งนี้ร้อยเวรได้นำร่างส่งพิสูจน์ ที่ รพ.อีกครั้ง ก่อนมอบศพให้กับญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่วัดศรีรัตนาวาส ต.โคกตูม อ.เมือง ลพบุรี สถานที่ตั้งศพนายสุชาติ ยิ้มพ่วง
ที่เพิ่งรับศพกลับมาจาก รพ. และได้พบกับนายวิเชียร ยิ้มพ่ว งอายุ 77 ปี อดีต ผญบ. ซึ่งเป็นพ่อของผู้ตาย เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังด้วยความเศร้าสลดว่า ผู้ตายอดีตเคยเป็น ผช.ผญบ. มีผลงานมากมาย ไม่คิดว่าลูกชายจะตัดสินปัญหาเช่นนี้ ยอมรับว่าเสียใจมากที่ลูกชายเคยเข้มแข็ง อดทน ผู้สื่อข่าวถามต่อสาเหตุหลักที่ลูกฆ่าตัวตายในครั้งนี้น่าจะมาจากสาเหตุอะไร ซึ่งนายวิเชียร กล่าวว่าลูกเป็นโรคซึมเศร้ามาได้ระยะหนึ่ง ซึ่งน่าจะมาจากการลงทุนที่ล้มเหลว ลุงทุนเลี้ยงกุ้งกับน้องสาวก็ขาดทุน แต่ก็ไม่ย่อท้อมาปรึกษาตนเอง ขอยืมเงิน กู้เงินลงทุนเพื่อปลูกข้าวโพดเมื่อกลางเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา กว่า 200 ไร่ นับล้านบาทแต่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ข้าวโพดยืนต้นตาย จากสภาวะฝนทิ้งช่วง ทำให้ลูกกลายเป็นคนเหม่อลอย เศร้าซึม จนเกิดเหตุสลดดังกล่าว
นางสุนัน ยิ้มพ่วง อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นแม่เลี้ยงเล่าว่า สุชาติ ผู้ตาย เป็นคนขยัน ขันแข็ง ชอบทำมาหากิน เห็นว่ามีความเครียดจากฝนแล้ง ก็ได้แต่ปลอบใจ ให้กำลังใจต่อสู้ ก่อนเกิดเหตุได้บอกกับตนว่าอยากตาย ผมทนยืนดูข้าวโพดที่ลงมือปลูกกับมือยืนต้นตายไม่ได้ ไม่เพียงเท่านั้น ลงทุนฉีดยาหนอนกระทู้ลายจุด ที่ระบาดอย่างหนัก หวังให้ต้นข้าวโพดรอดพ้นจากหนอนที่กัดกิน และเพื่อให้งอกงามถ้าโชคดีมีฝนตกลงมาบ้าง แต่ก็ต้องสิ่้นหวังเนื่องจากข้าวโพดหยุดการเจริญเติบโตและทยอยยืนต้นตายอย่างน่าเสียดาย แล้วจะหาเงินที่ไหนมาชดใช้เขา
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: