ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายประสิทธิ์ บัวรักษ์อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 188/11 ถ.รามเดโช ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง ลพบุรี อัยการพิเศษฝ่ายงานการสอบสวน ว่า ตนเองได้จอดรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า สี่ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน ญพ-5628 กรุงเทพมหานคร จอดคู่ไว้กับรถยนต์เก๋งที่หน้าบ้าน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 31 ส.ค.62 จนรุ่งเช้าเวลา 06.00 น. พบว่ารถยนต์กระบะของตนได้หายไป เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าเวลาประมาณ 24.00 ของวันที่ 31 ส.ค. 62 จนถึงเวลา 01.30 น. ของวันที่ 1 ก.ย. 62 มีคนร้ายมากกว่า 2 คน ได้ขับรถยนต์เก๋งมาจอดที่หน้าบ้านใช้เวลาในการโจรกรรมรถยนต์ของตนเองอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง ทั้งที่มองเห็นว่ามีกล้องวงจรปิด และยังเป็นเวลาที่มีประชาชนพลุกพล่าน วอนตำรวจเร่งไล่ล่าจับตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุให้จงได้ หวั่นไปก่อเหตุซ้ำกับประชาชนในยามที่เศรษฐกิจย่ำแย่
อัยการได้พาผู้สื่อข่าวและตำรวจงานสืบสวน สภ.เมือง ลพบุรี ขึ้นไปดูภาพคนร้ายที่กล้องวงจรปิดบนบ้านที่สามารถบันทึกภาพคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุไว้ได้ ถึงแม้จะไม่ชัดเจนมากนักเนื่องจากคนร้ายมีการจัดเตรียมอุปกรณ์ในการโจรกรรม การแต่งตัวที่รัดกุม และการหลบมุมกล้อง ที่มี่มากถึง 3 ตัว และใช้เวลาในการโจรกรรมนานกว่า 1 ชั่วโมง อย่างใจเย็น จนสามารถขโมยเอารถอกไปได้โดยไม่เกรงกลัว ไม่ระแวงว่าจะมีเจ้าของ เจ้าหน้าที่ หรือเพื่อนบ้านมาพบเห็น
โดยภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นคนร้ายสวมเสื้อคลุม สวมถุงมือย่องเข้ามาเปิดฝากระโปรงรถ ก่อนที่จะตัดสัญญานกันขโมยออก และเข้าไปถอดบล็อกกุญแจออกจากรถ แล้วเดินเข้าไปในรถเก๋งที่จอดอยู่ด้านหน้าทำการประกอบติดตั้งระบบกุญแจ หลังจากนั้นเดินเข้ามาประกอบ พร้อมกับนำเครื่องมือในการตัดตัวล็อคระบบเกียร์ และระบบคลัทช์ ของรถที่ใส่ไว้ทุกครั้งที่จอดรถในที่ลับตา ถึงแม้ว่าจะมีสัญญานกันขโมย และกล้องวงจรปิดก็ตาม แต่ก็ไม่วายโดนขโมยไปจนได้ ซึ่งทรัพย์สินอยู่ภายในรถที่คนร้ายได้ไปมีนาฬิกา 1 เรือน พระกรุ จำนวน 3 องค์ มูลค่าประมาณ 7-8 หมื่นบาท
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจากงานสืบสวน สภ.เมือง ได้มาดูกล้องวงจรปิด และพฤติกรรมของคนร้าย เพื่อที่จะได้สืบสวนติดตามกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้มาดำเนินคดีแล้ว โดยทางนายประสิทธิ์ บัวรักษ์ อัยการพิเศษฝ่ายงานการสอบสวน ได้ฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งไล่ล่าติดตามคนร้ายให้จงได้ เนื่องจากก่อเหตุในที่พลุกพล่าน แม้ว่าจะมีกล้องวงจรปิดติดตั้งไว้ถึง 3 ตัว โดยที่คนร้ายไม่เกรงกลัวอะไรเลย เกรงว่าจะไปก่อเหตุซ้ำกับพี่น้องประชาชน ที่ต้องพึ่งพาอาศัยรถให้การทำมาหากิน
