จากกรณี เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุมณฑป หรือ วิหารกลางสระน้ำ ของวัดเขาสะพานนาค หมู่ที่ 8 ต.ห้วยโป่ง อ.โคกสำโรง ลพบุรี ได้เกิดการทรุดตัวพังลงกลางสระน้ำทำให้ได้รับความเสียหายทั้งหลัง ซึ่งภายใน วิหารแห่งนี้ เป็นที่ประดิษฐาน รูปหล่อหลวงพ่อปาน รูปหล่อสมเด็จพุฒาจารย์โต และหลวงพ่อฤษีลิงดำ ตั้งอยู่ภายในวิหารกลางสระน้ำ ซึ่งก่อสร้างมาตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค. 2558 แต่ยังไม่แล้วเสร็จ เหลือการตกแต่งปูพื้นด้านนอก และทางเดินสู่มณฑปวิหารกลางน้ำ แต่ได้เกิดการยุบตัว แล้วล้มครืนลงมาเสียก่อน โชคดีขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่อีกครั้งเพื่อพบกับเจ้าอาวาสวัด เพื่อสอบถามรายละเอียด เนื่องจากเจ้าอาวาสติดกิจนิมนต์ ได้ให้นายอุดมศักดิ์ พลอยบุตร อายุ 77 ปี ประธานกรรมการบริหารวัดเขาสะพานนาค เป็นผู้ชี้แจงแทน ซึ่งประธานกรรมการวัดกล่าวว่า วิหารกลางน้ำหลังนี้สร้างเมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2558 แล้วเสร็จเมื่อสมบูรณ์เมื่อเดือน มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา จากเงินทำบุญของชาวบ้าน และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ งบสร้างกว่า 5 ล้านบาท โดยการออกแบบการก่อสร้างจากช่างก่อสร้างที่เป็นชาวบ้านช่วยกันเสนอแนวคิด ซึ่งจากเดิมนั้นเป็นแบบศาลาลอยกลางสระน้ำ โดยใช้เป็นสถานที่สักการะ กราบไหว้บูชา รูปหล่อหลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤษีลิงดำ และรูปหล่อสมเด็จพุฒาจารย์(โต พรหมรํสี) ที่ชาวบ้านเลื่อมในศรัทธา
โดยทางวัดและคณะกรรมการรวมถึงชาวบ้านได้เห็นพ้องกันว่า น่าจะมีการต่อเติมปูกระเบื้องทางเดินรอบวิหาร เพื่อความสวยงาม แต่ยังไม่ทันได้ลงมือทำ จนเมื่อวันที่ 23 ก.ย.62 ที่ผ่านมาวิหารเกิดทรุดตัว เอียงพังเสียหาย โดยที่ไม่สามารถเข้าไปในวิหารเพื่อเก็บข้าวของเครื่องใช้ รวมถึงรูปหล่อทั้ง 3 องค์ เนื่องจากเกรงจะไม่ปลอดภัย ซึ่งทางวัดได้ประสานไปยังสำนักโยธาธิการและผังเมืองลพบุรี ส่งวิศวกรตรวจสอบถึงสาเหตุของการเกิดเหตุทรุดตัว และแนวทางการแก้ไข ซ่อมแซมต่อไป
ด้าน พ.อ.ธรรมศาสตร์ เกตุวัง อายุ 70 ปี ข้าราชการบำนาญ ผู้อยู่ใกล้กับเหตุการณ์ กับวิหารที่ทรุดตัวเล่าว่า ขณะนั้นตนเอง กำลังให้อาหารปลาอยู่ รวมกับชาวบ้านอีก 3-4 คน ได้ยินเสียงดังลั่นจากด้านหลังสระน้ำ พอหันไปดูพบว่า วิหารที่ตั้งตระหง่านที่ศาลากลางน้ำดังกล่าวได้หักโค่นล้มค่อยเอนลง มีเสียงอิฐ ปูน รวมถึงสิ่งของต่างๆ ภายในวิหารล่วงหล่นลงน้ำ ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้าน พระ รวมถึงคณะกรรมวัดกล่าวว่า ตลอดสัปดาห์ที่วัดมีฝนตกลงมาเกือบจะทุกวัน ประกอบกับทางวัดได้สูบน้ำเข้าสระจนเต็มเพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ก่อนที่จะสิ้นฤดูฝน อีกทั้งทางวัดจะใช้เป็นสถานที่จัดงานประเพณีลอยกระทงประจำปี 2562 เช่นทุกปีที่ผ่านมา
สำหรับสาเหตุของการทรุดตัวของวิหารในครั้งนี้ นายอุดมศักดิ์ พลอยบุตร ประธานกรรมการวัด และชาวบ้านได้สันนิษฐานในเบื้องต้น อาจเกิดจากแรงกดของน้ำที่ดันขึ้นบริเวณฐานราก เสาและคานของมณฑป หรือแบบโครงสร้างรากฐานของวิหารที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งฐานรากอาจจะเล็กเกินไป เนื่องจากได้ต่อเติมในหลายส่วน จนรับน้ำหนักไม่ไหวได้ จึงได้ทรุดตัวลงดังกล่าว
