X

ฝากขังเสือโหย ผัดแรกค้านประกันตัวขณะที่เหยื่อทยอยแจ้งความเพิ่ม

สุราษฎร์ธานี-พนักงานสอบสวน สภ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี นำตัวเสือโหยฝากขังศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีพร้อมคัดค้านการประกันตัว ขณะที่เหยื่อทยอยเข้าแจ้งความเพิ่ม
จากกรณีนายชาญวิทย์ สิรภักดี นายอำเภอคีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึงกำนันผู้ใหญ่บ้านทุกตำบลทุกหมู่บ้าน ให้เฝ้าระวังนายอนุสรณ์ สมบุญ ฉายา”เสือโหย” อายุ 33 ปี ชาว อ.คีรีรัฐนิคมได้กระทำการผิดกฎหมายทางเพศสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติสุขได้ และ ได้ออกหมายจับที่ 18/2563ในข้อหาพยายามข่มขืนกระทำชำเราบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน โดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2563 และคดีลักทรัพย์ในเคหะสถาน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2563 โดยทางเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ปกครองกดดันจนสามารถจับกุมเสือโหยได้ขณะนอนหลับในเปลหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าพื้นที่ อ.คีรีรัฐนิคมเมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมาท่ามกลางความโล่งใจของชาวบ้าน ขณะที่เสือโหยขอเปิดใจกับสื่อก่อนถูกสอบสวนเครียดปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอเหรียญพระหลวงพ่อนุ้ยที่ตัวเองแขวนคอมาตั้งแต่เด็กคืนโดยอ้างว่า อส.คีรีรัฐนิคม ปลดออกจากคอตอนถูกจับกุม และไม่พอใจที่มีสื่อโซเชียลโพสต์ลงเฟซบุ๊กว่าตนเองเป็นโจรโรคจิต ขอท้าให้เอาใบรับรองแพทย์มายืนยัน

โดยในช่วงเช้าวันนี้ (10.00 วันที่ 30 ม.ค. 63 ) ร.ต.อ.อนิรุตร์ พลรักษ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.คีรีรัฐนิคม อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ในฐานะพนักงานสอบสวน เจ้าของคดี ได้นำตัว นายอนุสรณ์ สมบุญ ฉายา”เสือโหย ไปขออำนาจศาลฝากขังศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผัดแรก ใน 3 ข้อหา ประกอบด้วย1.ข้อหาพยายามข่มขืนกระทำชำเราบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน โดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย 2.ข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถาน และ 3.ข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นมิใช่ภรรยาโดยใช้อาวุธปืน  พร้อมคัดค้านการประกันตัวโดยให้เหตุผลว่าผู้ต้องหาเป็นบุคคลอันตรายมีการก่อเหตุมา 9 คดีส่วนใหญ่เป็นคดีซ้ำซาก ข่มขืนกระทำชำเรา อนาจารโดยใช้อาวุธและลักทรัพย์ จนเป็นที่หวาดกลัวของประชาชนในพื้นที่ หากได้รับการประกันตัวออกมาผู้ต้องหาอาจจะก่อเหตุซ้ำอีกได้
ขณะเดียวกันมีผู้เสียหายที่เคยตกเป็นเหยื่อของเสือโหยทยอยมาแจ้งความและให้ปากคำเป็นพยานกับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง

 

ด้าน พ.ต.ท.วิโรจน์ ยิ่งดำนุ่น รอง ผกก.สอบสวน สภ.คีรีรัฐนิคม ในฐานะหัวหน้างานสอบสวนระบุว่าจากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การแบ่งรับแบ่งสู้ แต่ส่วนใหญ่ให้การปฏิเสธ เป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่จะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธ ทางพนักงานสอบสวนไม่หนักใจเนื่องจากมีผู้เสียหายให้การยืนยันและมีพยานหลักฐานที่สำคัญหลายชนิดที่จะเอาผิดได้ และล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายเมื่อวานที่ผ่านมา ได้มีผู้เสียหายเป็นผู้หญิงวัยประมาณ 30 ปี ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนว่าเมื่อกลางดึกต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมาถูกเสือโหยบุกเข้าไปในบ้านพักพร้อมกับใช้อาวุธปืนจี้บังคับข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ต่อหน้าลูกน้อยวัยขวบเศษ หลังจากก่อเหตุแล้วได้พูดข่มขู่ไม่ให้นำเรื่องที่เกิดขึ้นไปเปิดเผยหรือแจ้งความมิฉะนั้นจะกลับมาฆ่า ด้วยความหวาดกลัวจึงไม่กล้าแจ้งความแต่หลังจากเสือโหยถูกจับกุมตัวได้จึงออกมาแจ้งความ
                           ส่วนเรื่องเหรียญพระที่เสือโหยอ้างว่า อส.เป็นคนเอาไปนั้น ทางนายอำเภอคีรีรัฐนิคม กำลังอยู่ในระหว่างการสอบถามว่ามีใครเอาไปจริงหรือไม่ โดยให้ผู้นำท้องถิ่นซึ่งนามสกุลเดียวกับเสือโหยติดตามให้.

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน