สุราษฎร์ธานี- วันนี้ (6 ก.พ.63 ) ที่ ตชด.417 อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รอง ผวจ.สุราษฎร์ธานี ร่วมกับ พ.ต.อ.เชิดพงษ์. ชิวปรีชา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี / พ.ต.อ.เสกสรร อินทรสิทธิ์ รอง ผบก.ตชด.ภาค 4 , พ.ต.อ.สมชาย. ศรีศรยุทธ์ ผกก.ตชด.41 , พ.ต.ท.จอมภพ เสียงเพราะ ผบ.ร้อย ตชด.417 พ.ต.ท.วัฒนะ ศักดิ์เศรษฐ ผบ.ร้อย ตชด.416 , พ.ต.ท.คำแหง แก้วแกมทอง สว.ฝอ.บก.ตชด.ภาค 4 , พ.ต.ต.ปริญญา รักษาแก้ว สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.3 เจ้าหน้าที่ ปปส.ภาค 8 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงผลการจับกุมยาเสพติดได้ของกลางยาบ้ารวมทั้งสิ้น151,000 เม็ด มูลค่าเกือบ 20 ล้านบาท
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3-5 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ตชด.417 ร่วมกับ ตชด.416 ชุดปฏิบัติ ตชด.ภาค4ได้ร่วมจับกุมเครือข่ายยาเสพติดสุราษฎร์ธานี-กาญจนบุรี ได้ผู้ต้องหา 2 คน คือ นายอริยะ หรือต๊ะ วิริยะเวช อายุ 33 ปี และนายเอกพันธ์ หรือโอม พฤกษวานิช อายุ 34 ปี ชาว ต.ขนอม อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช พร้อมของกลางไอซ์ จำนวน 2 กรัม ยาบ้า 1 ถุง จำนวน 200 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง จับกุมได้ที่บริเวณหน้าห้องพักรีสอร์ทแห่งหนึ่งใน ต.วัดประดู่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานีนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 ตามหมายเลขคดีอาญาที่ 313/2563
และมีการขยายผลนำไปสู่การจับกุมเครือข่ายเพิ่มเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ได้ผู้ต้องหา 3 คน คือนายธเนศ หรือโอ๊ด แดงเกื้อสกุล อายุ 35 ปี/นายลำพู หรือพู คงคล้าย อายุ 45 ปี และนายชัญชัย หรืออุ้ย กลิ่นหอม อายุ 33 ปี ชาว อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 5,000 เม็ด รถยนต์กระบะ 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่องจับกุมได้บริเวณหน้าร้านอาหารใจดีฟาร์ม สุราษฎร์ธานี ม.3 ต.พลายวาส อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี
โดยพฤติกรรมของผู้ต้องหานายอริยะ ฯ ผู้ถูกจับกุมคดีที่ 1 ได้ให้ข้อมูลว่าสามารถขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดได้ , โดยติดต่อหานางกรรณิการ์ หรือตา, กา คชรินทร์ ทางโทรศัพท์มือถือหมายเลข 093-310-9502 ต่อมา วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 เวลาประมาณ 14.22 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ให้ นายอริยะ ฯ ติดต่อไปหา นางกรรณิการ์ ฯ จึงได้สั่งซื้อยาบ้า จำนวน 1 มัด (2,000 เม็ด) ตกลงราคา 50,000 บาท และนัดหมายให้นายธเนศ ฯ ไปส่งยาบ้าให้กับอริยะ ฯ ที่บริเวณร้านอาหารใจดีฟาร์ม สุราษฎร์ธานี ม.3 ต.พลายวาส อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี โดยการติดต่อนัดหมายระหว่างนายอริยะ ฯ กับ นายธเนศ ฯ , นางกรรณิการ์ ฯ จะใช้วิธีการประชุมสาย ผ่าน นางกรรณิการ์ จนกระทั่งเวลา 17.00น. นายธเนศ ฯ ได้นำยาบ้ามาส่งให้กับนายอริยะ ฯ จนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวนายธเนศ ฯ ได้พร้อมพวกอีก 2 คน
ส่วนคดีที่ 3เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 เวลาประมาณ 21.00 น. ชุดจับกุมสามารถขยายผลจับกุมเครือข่ายได้ผู้ต้องหาอีก 1 คนคือ นายวิชัย หรือชัย ศรกลาง อายุ 49 ปี ชาว อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยของกลางไอซ์ จำนวน 1 กิโลกรัม ยาบ้า จำนวน 73 มัด (มัดละ 2,000 เม็ด) รวมยาบ้า จำนวน 146,000 เม็ดรถกระบะ จำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่องจับกุมได้บริเวณซอยท่าเสาเภา ก่อนถึงป้อมทางหลวง ต.พลายวาส อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี
ข่าวน่าสนใจ:
โดยพฤติกรรมการจับกุมนายธเนศ ฯ ผู้ถูกจับกุมคดีที่ 2 ได้ให้ข้อมูลว่าสามารถขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายนายวิชัย หรือชัย ศรกลาง อยู่ที่ จ.กาญจนบุรี โดยได้ติดต่อกันทางโทรศัพท์มือถือไว้ก่อนหน้านี้ ได้สั่งซื้อไอซ์ไว้ จำนวน 1 กิโลกรัม ยาบ้าจำนวน 3 มัด จำนวน 6,000 เม็ด เวลาประมาณ 18.44 น. ของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 นายวิชัย ฯ ได้ใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อมาหา นายธเนศ ฯ และแจ้งว่าตอนนี้กำลังเดินทางใกล้ถึง จ.สุราษฎร์ธานีแล้ว และให้นายธเนศ ฯ ขับรถยนต์ไปรอที่บริเวณริมถนนตรงข้ามกองบิน 7 ต.มะลวน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อนายวิชัย ฯ มาถึงกองบิน 7 ฯลฯ ก็ให้นายธเนศ ฯ ขับรถนำไปตามเส้นทางเพื่อตรวจสอบด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยใช้เส้นทาง ถนนเอเชียตรงข้าม หน้ากองบิน 7 และตัดขึ้นถนนเซาท์เทิร์น หมายเลข 44 มุ่งหน้าไปทางอำเภอกาญจนดิษฐ์ ไปยังบริเวณซอยท่าเสาเภา ก่อนถึงป้อมทางหลวง ต.พลายวาส อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี สถานที่ส่งยาเสพติดกันครั้งก่อน และได้ติดต่อกันทางโทรศัพท์เรื่อยมาเพื่อยืนยันตำแหน่งกัน โดยวิธีการเปิดลำโพงให้ชุดจับกุมฟัง จนกระทั่งเวลา 21.00 น. ชุดจับกุมได้จอดรถบริเวณที่เกิดเหตุ และนายวิชัย ฯ ขับรถกระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 2ฒณ 5583 กรุงเทพมหานคร มาจอดต่อท้ายรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคันที่ 2 และรถจับกุมอีกคันมาจอดต่อท้ายเป็นคันที่ 3 ได้สังเกตเห็น นายวิชัย ฯ เป็นคนขับรถ และชุดจับกุมจึงได้เข้าไปแสดงตัว นายวิชัย ฯ รับว่าได้นำ ไอซ์, ยาบ้า มาจำหน่ายแก่นายธเนศ ฯ จริง และได้นำไอซ์ , ยาบ้า เก็บซุกซ่อนไว้บริเวณตัวถังรถพร้อมกับนำชี้ให้กับชุดจับกุมตรวจสอบเบื้องต้น ปรากฏว่ามียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ใต้กระบะรถคันดังกล่าว นายวิชัย ฯ ได้ให้ข้อมูลว่าจ้างอู่รถเพื่อทำช่องสำหรับซุกซ่อนยาเสพติดที่ตัวถังรถ เพื่อนำยาเสพติดมาจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ได้รับค่าจ้างเป็นจำนวนครั้งละ 200,000 บาท โดยต้นทุนยาเสพติด จาก จ.กาญจนบุรี ไอซ์ ราคากิโลกรัมละ 125,000 บาท นำมาจำหน่ายภาคใต้ ในราคา 200,000 บาท ยาบ้า ราคามัดละ 15,000 บาท นำมาจำหน่ายภาคใต้ ในราคา 25,000 บาท.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: