สุราษฎร์ธานี-ผอ.ศรชล.ภาค 2 ลงพื้นที่สุราษฎร์ฯติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาข้อพิพาทอ่าวบ้านดอนย้ำปฏิบัติตามกฎหมาย ศรชล. รื้อทุกขนำ
เมื่อเวลา 09.30น.วันนี้(7ก.ค.)พลเรือโทสำเริง จันทร์โส ผู้อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 2 ( ผอ.ชล.ภาค2 ) ลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานีอีกครั้ง ติดตามความคืบหน้า ผลการปฏิบัติงานแก้ปัญหากรณีพิพาทอ่าวบ้านดอน การบุกรุกที่สาธารณะกั้นคอกหอยและสร้างบ้านหรูหรือขนำหรูเฝ้าคอกหอยอ่าวบ้านดอนและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ตั้งกองอำนวยการที่วัดชลธาร ม.2 ต.บางไทร อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานีโดยรับฟังบรรยายสรุปการทำงานในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ซึ่งในส่วนของความคืบหน้าการรื้อถอนขนำได้รื้อถอนไปแล้วทั้งหมด 26 ขนำในพื้นที่ อ.เมือง 7 หลังพุนพิน 16 หลังและ อ.กาญจนดิษฐ์ 3 หลังและแจ้งความดำเนินคดี 92 คดีหรือประมาณ 85% ในพื้นที่ 2 อำเภอคือ อ.เมือง กับ อ.พุนพิน ขณะที่ขนำหรู3ชั้นหลังคาสีแดงยังไม่เริ่มรื้อถอนโดย นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รอง ผวจ.สุราษฎร์ธานีอธิบายว่าได้ประสานไปยังเจ้าของแล้วซึ่งเจ้าของกำลังติดต่อช่างจะรื้อถอนเองเพราะต้องการไม้ไปใช้ประโยชน์แต่หากไม่รื้อถอนก็จะใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการ และในที่ประชุมได้เน้นย้ำว่าเรื่องอุทธรณ์คำสั่งประกาศจังหวัดไม่น่าจะอุทธรณ์ได้แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทั้งนี้หากเจ้าของขนำไม่รื้อถอนตามกำหนด ทาง ศรชล.หรือทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันอาจจะต้องรื้อถอนเองโดยอาศัยงบประมาณของรัฐบาล
ภายหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง พลเรือโทสำเริง จันทร์โส ผู้อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 2 ( ผอ.ชล.ภาค2 ) กล่าวว่า ทาง ศรชล.ยืนยันจะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดที่ผิดกฎหมายในอ่าวบ้านดอน ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายแต่ในส่วนของเจ้าของขนำจะอุทธรณ์คำสั่งต่อทางจังหวัดนั้นเป็นสิทธิของเจ้าของขนำจะทำได้ แต่ขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัดที่จะอนุญาตหรือไม่แต่กฎหมาย ศรชล.อาจจะคัดค้านและเดินหน้ารื้อถอนแน่นอน เขตสาธารณะทั้งคนในและนอกพื้นที่สามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้
ในส่วนของกรณีมีการร้องเรียนว่ายังมีการข่มขู่อยู่นั้น ยืนยันว่าทุกพื้นที่ดำเนินการตามกฎหมายทั้งนั้นและฝากไปยังผู้ที่ข่มขู่ขอให้หยุดการกระทำนั้นเสีย .
