สุราษฎร์ธานี-ไอ้หื่น!สารภาพปล้ำสาวมินิช็อปจริงเพิ่งทำครั้งแรกรับเคยติดคุกคดีเสพยาเสพติดไม่ใช่คดีข่มขืน ขณะที่พนักงานสอบสวนค้านประกันตัวฝากขังศาลพรุ่งนี้
จากกรณีภาพวงจรปิดร้านสะดวกซื้อ “มินิช็อป” ตั้งอยู่บริเวณแยกนายพัน ถนนสายเอเชีย 41 ม.5 ต.มะลวน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี บันทึกภาพ เหตุการณ์ชายหนุ่มไม่ทราบชื่อขับรถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าร้านและเดินเข้าไปในร้านโดยมีหญิงสาวอายุ 19 ปีเจ้าของร้านอยู่เพียงลำพัง ชายในภาพมีพฤติกรรมมุ่งหวังจะข่มขืน ซึ่งหญิงสาวสังเกตเห็นผิดปกติ จึงได้โทรศัพท์ตามแฟนหนุ่มให้กลับมาที่ร้าน ระหว่างนั้นคนร้ายได้พยายามจะสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองไปด้วยและฉวยโอกาสเดินเข้าไปหมายจับปลุกปล้ำหญิงสาว แม้ว่าหญิงสาวจะใช้ไม้กวาดไล่ และพูดขู่ขึ้นว่าพ่อเป็นตำรวจ แต่ไม่เป็นผล และโชคดีที่แฟนหนุ่มกลับมาทันและช่วยเหลือไว้ได้ ช่วงชุลมุนคนร้ายได้วิ่งหนีออกจากร้านซึ่งจอดรถจักรยานยนต์และติดเครื่องไว้หน้าร้านหลบหนีไปได้โดยทิ้งรองเท้าสีเหลืองไว้ 1 คู่ เหตุเกิดเมื่อเวลา 17.40 น.เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2564 ที่ผ่านมา และมีการแชร์ภาพในโซเชียล เมื่อวานที่ผ่านมาจนกระทั่งมีหญิงสาวผู้เสียหายถูกลวนลามมาก่อนหน้านี้ด้วยการถูกคนร้ายคนเดียวกันจับก้นก็ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุนพินด้วย
ล่าสุดในช่วงเช้าวันนี้ (29 ม.ค. 64 ) ร.ต.อ.ชัยวัฒน์ ปั้นทอง พนักงานสอบสวนได้นำสำนวนไปขออำนาจศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีออกหมายจับนาย อนุพงษ์ จันทร์ประสิทธิ์ อายุ 26 ปี มีภูมิลําเนา อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ที่ 11 ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ผู้ก่อเหตุกระทำความผิดตามภาพวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้ โดย พนักงานสอบสวนได้ขอหมายจับ จำนวน 2 คดี คดีแรกมีผู้เสียหายเป็นหญิงสาวขับรถจักรยานยนต์ ที่ถูกลวนลามจับก้นก่อนที่จะมาก่อเหตุในร้านสะดวกซื้อ มินิช็อป ในข้อหาทำอนาจาร คดีที่ 2 ทำร้ายร่างกายและทำอนาจารที่ร้านมินิช็อป จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหามีประวัติเคยก่อเหตุข่มขืนหญิงสาวชาวเมียนมา ที่บ้านบางคราม ต.เสวียด อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานีและถูกจำคุกเป็นเวลา 2 ปี เพิ่งพ้นโทษเมื่อปลายปี 2563 ที่ผ่านมาและมาก่อเหตุซ้ำ
จนกระทั่งในที่สุดทางตำรวจชุดสืบสวน สภ.พุนพิน ร่วมกับตำรวจ สภ.วิภาวดีจับกุมนายอนุพงษ์ จันทร์ประสิทธิ์ ผู้ต้องหาได้ในสวนยางพารา บนเขา หมู่ที่ 6 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานีที่ผู้ต้องหารับจ้างกรีดยาง เมื่อตำรวจไปถึงพบผู้ต้องหา กําลังนั่งกินข้าวกล่องอยู่ จึงได้ควบคุมตัวและนํามาลงบันทึกการจับกุมที่ สภ.วิภาวดี ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.พุนพิน พื้นที่เกิดเหตุ (เวลา 12.45 น.)
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามหมายจับและก่อเหตุทำอนาจารสาวในร้านมินิช็อปจริง แต่ไม่ได้จับก้นหรือลวนลามผู้เสียหายอีกคนที่ให้การกับตำรวจและตนเองไม่ได้ถูกจำคุกคดีข่มขืนแต่ถูกจำคุกคดีเสพยาเสพติด โดยตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่าตอนนั้นไม่ได้ตั้งใจทำ เพียงแค่ผ่านไป ไม่ได้มีอารมณ์เป็นแค่คำพูดเฉยๆ ไม่ได้เจตนา เพิ่งทำครั้งแรกฝากขอโทษไปยังผู้เสียหายด้วย “ผมขอโทษไม่ได้ตั้งใจ รอบนี้ผมผิดไปแล้วให้โอกาสผมสักครั้ง” และในช่วงเย็นวันนี้ทางพนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุและจะคัดค้านการประกันตัวเพราะกลัวว่าหากประกันตัวไปแล้วอาจจะไปก่อเหตุซ้ำอีก หลังสอบปากคำเสร็จจะรวบรวมสำนวนฝากขังศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีในวันพรุ่งนี้ โดยผู้ต้องหาร้องขอทนายความเข้าร่วมรับฟังในระหว่างการสอบสวน
ขณะเดียวกันทางนายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี ได้เดินทางไปดูสถานที่เกิดเหตุปลอบขวัญให้กำลังใจนายบิวอายุ 24 ปีแฟนหนุ่มของน้องนิ่ม อายุ 19 ปีผู้เสียหาย มอบกระเช้าของขวัญ และมอบหมายให้ทาง อบต.มะลวน อ.พุนพินติดตั้งแสงสว่างเพิ่มเติมภายในบริเวณแยกนายพัน เนื่องจากเป็นเขตชุมชนที่มีคนพลุกพล่าน
ด้านน้องบิวฮีโร่หนุ่มที่ช่วยแฟนสาวเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าโชคดีที่ตนเดินมาที่ร้านและได้ยินเสียงแฟนร้องจึงช่วยเหลือได้ทัน และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่จับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้ ด้านน้องนิ่มแฟนสาวบอกว่าตอนนี้สบายใจแล้วที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายได้รวดเร็ว หลังเกิดเหตุค่อนข้างจะหวาดกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: