สุราษฎร์ธานี-ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนใหญ่เชิงสะพานศรีสุราษฎร์ ฯ หลังนายก “ลุงตู่” กลับจากลงพื้นที่หาเสียงสุราษฎร์ธานี พบเงินสดนับล้านบาทในรถเจ้ามือ
เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.วันที่ 04 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง โดย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการ ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กว่า 30 นาย นำกำลังบุกเข้าทลายบ่อนการพนันขนาดใหญ่อยู่ในพื้นที่ อ. เมืองสุราษฎร์ธานี สามารถจับนักพนันได้ร่วม 100 กว่าราย
โดยการปฏิบัติการครั้งนี้ เริ่มต้นมาจาก ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า มีบ่อนการพนันขนาดใหญ่ ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดให้นักพนัน เข้ามาเสี่ยงโชคเป็นเวลานานแล้ว แต่ละวันจะมีนักพนันไม่ต่ำกว่า 100 คน เข้าเล่น มีการเล่นพนัน ไพ่สิบแต้ม ไฮโล และโปปั่น โดยเปิดเล่นทั้งกลางวันและกลางคืน ยึดของกลางได้อีกจำนวนมาก
กรมการปกครองสืบทราบข้อมูลจากพื้นที่ว่าบ่อนการพนันแห่งนี้จะย้ายสถานที่ใหม่เรื่อย ๆ เพื่อหลบหลีกการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ และหลังจากที่เฝ้าติดตามพบว่า วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 มีการลงพื้นที่หาเสียงของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรครวมไทยสร้างชาติ ในหลายเขตพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทำให้บ่อนดังกล่าว รื้อถอนอาคารที่จัดให้เล่นเดิมในเขตพื้นที่ อ.ท่าฉาง อย่างราบคราบ แต่ไม่ทันจะพ้นวัน พบสถานที่แห่งใหม่ ใหญ่กว่าเดิม ขนาดพื้นที่มากกว่า 1 ไร่ อยู่ในเขต ต.บางกุ้ง อ.เมืองสุราษฎร์ธานี สามารถจุนักพนันได้ร่วม 1,000 คน โดยประตูทางเข้าจะมีทางเดียว ประตูทางเข้าเปิดอัตโนมัติ มีการ์ดตรวจตราหน้าประตูทางเข้า 3 ราย คอยดูต้นทาง คอยตรวจตราคนเล่นหน้าใหม่ ภายในบ่อนห้ามนักพนันไม่ให้ใช้โทรศัพท์โดยเด็ดขาด นักพนันที่มาเล่นภายในบ่อน สามารถจอดรถด้านในบ่อนได้ มีพื้นที่กว้างขวางในการรองรับนักพนัน
ภายหลังการเข้าตรวจค้น จับกุม พบนักพนันรวมเจ้ามือ จำนวน 102 คน วงไพ่ 49 คน , วงไฮโล 22 คน , วงโปปั่น 31 คน จำนวนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ภายในบ่อน เป็นรถยนต์ จำนวน 63 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 52 คัน
ผู้เล่นพนันส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง พบอุปกรณ์การเล่นทั้งไพ่สิบแต้ม ไฮโล โปปั่น จำนวนมาก และเงินสดจำนวนนับล้านบาท
ฝ่ายปกครองชุดจับกุมได้ประสานพนักงานสอบสวนสภเมืองสุราษฎร์ธานี ทำการอายัดรถยนต์ต้องสงสัยที่มีเงินสดจำนวนมากพร้อมอุปกรณ์การเล่นพนัน และพบปืนออโตเมติก 2 กระบอก พบในรถต้องสงสัย ฝ่ายปกครองชุดจับกุมได้ทำการยึดไว้ตรวจสอบ
ทั้งนี้นำตัวผู้ถูกจับทั้งหมดมาทำบันทึกจับกุม ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักลอบจัดให้มีการเล่นการพนันโดยผิดกฎหมาย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ดำเนินคดีต่อไป
นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการ ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการเปิดเผยว่า บ่อนแห่งนี้เปิดเล่นพนันใจกลางชุมชน และเป็นบ่อนวิ่ง โดยจะเปิดให้เล่นพนันสถานที่ละหลายเดือนแล้ว ย้ายสถานที่ใหม่ไปเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเปิดในพื้นที่ อ.ท่าฉางแต่เมื่อไปตรวจสอบไม่พบโดยเพิ่งย้ายมาที่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานีได้เพียง 1 วัน จึงได้ตามมาสืบหาจนพบว่า มีการเปิดบ่อนอยู่บริเวณทางไปสะพานศรีสุราษฎร์ โดยส่งสายเข้าสืบสวนพบมีวงพนัน 3 วง ภายในมีรั้วรอบขอบชิต มีทางเข้า-ออกทางเดียวและมี การ์ด เฝ้าตรวจสอบที่ประตูหน้า 3 คนคอยตรวจสอบบุคคลที่จะเข้ามาเล่นพนัน พบเงินสดของกลางจำนวนหนึ่ง แต่น่าสงสัยจะเป็นรถยนต์ของเจ้ามือมีเงินสดเป็นหลักล้าน พอสอบถามอ้างว่าจะไปซื้อรถยนต์ เมื่อถามจะไปซื้อที่ไหนกลับตอบไม่ได้ อ้างว่าเอาเงินมาไว้ก่อน เมื่อมีรถมาจะไปซื้อได้เลย ซึ่งทุกครั้งที่มีการจับกุม เราได้เน้นย้ำเสมอ ขอให้ประกอบธุรกิจให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย โดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้สังคมเกินควร หรือท้าทายกฎหมายอย่างชัดแจ้ง
“ หากประชาชนมีเบาะแสบ่อนการพนันหรือแหล่งอบายมุขสร้างความเดือดร้อนในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่ตำรวจ หรือฝ่ายปกครองในท้องที่ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบยังไม่มีการปฏิบัติ สามารถร้องเรียนได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย”นายรณรงค์ กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่าชุดพิเศษกรมการปกครอง ตรวจสอบมาหลายอำเภอแล้ว แต่หลังจากเจ้หญิง เจ้าของบ่อนพนันใน อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ถูกยิงเสียชีวิต ได้มีการปิดไป จนมีการร้องเรียนว่าบ่อนพนันกลับมาเปิดที่ อ.ท่าฉาง และย้ายมาเล่นที่แห่งนี้ และระหว่างที่มีการจับกุมภายในบ่อนพนันดังกล่าว ได้มีนักพนันบางคนพูดโวยวายว่า ยังมีบ่อนพนันที่ อ.กาญจนดิษฐ์ ทำไมตำรวจไม่ไปจับบ้าง.
