สุราษฎร์ธานี-ชาวบ้านตำบลตะกุกใต้ อ.วิภาวดี ที่ประกอบอาชีพทำสวนยางพารา ปาล์มน้ำมันและสวนทุเรียน กว่า 100 คนรวมตัว ยื่นหนังสือคัดค้านโครงการก่อสร้าง อ่างเก็บน้ำวิภาวดีพร้อมระบบส่งน้ำ ต่อนายอำเภอวิภาวดี อ้างไม่เคยมีการทำประชาพิจารณ์ให้ชาวบ้านได้รับทราบแต่อย่างใด ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน
วันนี้ (26 มิ.ย. 66 ) ได้มีชาวบ้านหมู่ที่ 11 ต.ตะกุกใต้ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี กว่า 100 คนนำโดยนายอดุลย์ สุวรรณ , นางสาวเบญจมา อุ่นเศษ ได้รวมตัวกันพร้อมชูป้ายไวนิลระบุข้อความว่า “หยุดโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำ พวกเราขอความเป็นธรรมบนพื้นที่และทรัพย์สินของพวกเรา”เดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายนภดล ขาวมะลิ นายอำเภอวิภาวดี ณ ที่ว่าการอำเภอวิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อขอคัดค้านโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำวิภาวดี พร้อมระบบส่งน้ำ บริเวณหมู่ที่ 11 ต.ตะกุกใต้ อ.วิภาวดี ซึ่งโครงการดังกล่าวใช้พื้นที่ทำกินของราษฎรประมาณ 700 ไร่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อราษฎรที่ทำสวนยางพารา ปาล์มน้ำมันและสวนทุเรียน จำนวน 70 ครัวเรือน หรือประมาณ 500 คน ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นของสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 15 กองพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง กรมชลประทาน
ข่าวน่าสนใจ:
ส่วนสาเหตุที่ชาวบ้านในพื้นที่คัดค้านเนื่องจากโครงการนี้ระบุว่าแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภคและการเกษตร แต่ในสภาพความเป็นจริงพื้นที่ดังกล่าว มีลำห้วย คลอง ที่จะสามารถแก้ปัญหาได้ ด้วยการขุดลอกแหล่งน้ำที่มีอยู่โดยไม่ต้องมีผลกระทบต่อชาวบ้านและสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ ประกอบกับยังมีน้ำตกวิภาวดีและลุ่มน้ำคลองยันที่จะช่วยแก้ปัญหาได้
อีกทั้งโครงการดังกล่าวที่อ้างว่าเป็นการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในความเป็นจริงไม่ได้แก้ปัญหา แต่จะก่อให้เกิดปัญหาใหม่ตามมา คือราษฎรไม่มีที่ดินทำกิน เพราะที่ดินแปลงดังกล่าวชาวบ้านได้อาศัยมาหลายช่วงอายุคนแล้ว บางรายก็เข้ามาทำการเกษตรมากกว่า 20-30 ปี หากมีการทำอ่างเก็บน้ำก็ไม่มีที่อยู่อาศัยหรือที่ทำกินเพื่อที่จะสร้างรายได้มาเลี้ยงครอบครัว
นางสาวเบญจมา อุ่นเศษ ผู้ยื่นหนังสือคัดค้าน กล่าวว่า ตนมีที่ดินอยู่ในพื้นที่ประมาณ 50 ไร่ ตนได้ทำการเกษตรมา กว่า 20 ปี หากมีการทำอ่างเก็บน้ำพวกตนก็จะประสบปัญหาความเดือดร้อนเพราะรายได้ในปัจจุบันมาจากการทำการเกษตร และไม่ใช่แต่เฉพาะตนยังมีเพื่อนบ้านอีกหลายคนบางคนมีที่ดิน 2-3 ไร่ ปลูกบ้านเพิ่งเสร็จ หากภาครัฐเอาที่ดินแล้วให้เขาไปอยู่ไหนกัน ซึ่งที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ไม่เคยมาบอกกล่าวให้พวกตนได้รับทราบแต่อย่างใด เพียงแต่รู้มาว่าเมื่อปี 62 หรือปี 63 ว่าจะมีการสร้างอ่างเก็บน้ำเท่านั้นแต่พอมาวันนี้ที่ได้รู้เพราะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปปักเขต ระบายสีเพื่อกันแนวเขตที่จะดำเนินการก่อสร้าง หากเป็นเช่นนั้นพวกตนจึงได้รวมตัวกันมาคัดค้าน ซึ่งการมาในครั้งนี้มาโดยสันติวิธีหากยังฝืนที่จะมีการดำเนินการพวกตนไม่ยอมเด็ดขาด
ขณะที่นายนภดล ขาวมะแล นายอำเภอวิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า วันนี้ได้ลงมารับหนังสือข้อเรียกร้องของชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้นก็จะนำหนังสือดังกล่าวส่งต่อทางจังหวัดเพื่อให้มีการพิจารณาอีกครั้ง.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: