สุราษฎร์ธานี-จังหวัดสุราษฎร์ธานีรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดสร้างภูมิคุ้มกัน ให้เยาวชนเข้าใจโทษและพิษภัยยาเสพติด เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก 26 มิถุนายน 2566
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 26 มิ.ย. 66 ที่อาคารศูนย์กลางการประชุมสัมมนาภาคใต้ตอนบน ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานเปิดกิจกรรมเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลกโดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษา ร่วมกิจกรรม
จากนั้นได้มอบประกาศเกียรติคุณเชิดชูเกียรติบุคคลหรือองค์กรผู้ปฏิบัติงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดดีเด่นของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทั้งในส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น บุคคลทั่วไปและภาคประชาชน ก่อนอ่านสารและกล่าวคำประกาศเจตนารมณ์ เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลกเพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงปัญหายาเสพติดมากยิ่งขึ้น และเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ภายใต้กรอบแนวคิดของการรวมพลังเพื่อให้พ้นภัยยาเสพติดอย่างยั่งยืน
รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า มติที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ กำหนดให้วันที่ 26 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันต่อต้านยาเสพติดโลก ประเทศไทยได้ยึดถือปฏิบัติ และยืนยันเจตนารมณ์ ในการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด ร่วมกับประชาคมโลกอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยทุกส่วนได้ให้ความสำคัญกับปัญหายาเสพติด ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัญหาด้านความมั่นคงที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว
โดยในห้วงที่ผ่านมา หน่วยงานภาครัฐได้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด เป็นเครื่องมือในการป้องกันและปราบปรามลดการแพร่ระบาดของปัญหายาเสพติดในทุกรูปแบบด้วยความทุ่มเทอย่างสุดกำลัง ใช้กลไกการขับเคลื่อนในพื้นที่ทุกระดับ ตั้งแต่ จังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน ชุมชน บูรณาการแก้ไขปัญหายาเสพติด ในทุกมิติ เพื่อลดระดับความรุนแรงของปัญหายาเสพติดในสังคมไทยนำไปสู่จุดมุ่งหมายคือ “สังคมไทยปลอดภัยจากยาเสพติด” โดยด้านการปราบปราม มุ่งเน้นลดระดับความรุนแรงของพื้นที่แพร่ระบาดจับกุมผู้ค้ายาเสพติด และขยายผลไปสู่การยึดทรัพย์สิน ที่ได้จากการค้ายาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก
ในส่วนของการป้องกัน เน้นลดประชากรทุกกลุ่มเป้าหมายที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยการสร้างภูมิคุ้มกัน และเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของครอบครัว หมู่บ้านและชุมชน รวมทั้งการแก้ไขปัญหาผู้เสพผู้ติด โดยใช้วิธีการทางสาธารณสุข แทนการใช้กระบวนการยุติธรรมทางอาญา ยึดหลักผู้เสพคือผู้ป่วย ที่ควรได้รับการช่วยเหลือให้เข้ารับการบำบัดรักษา ตลอดจนติดตามช่วยเหลือให้กลับมาดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างยั่งยืน.
