X

ไปไม่รอด !อย่าคิดทำ

สุราษฎร์ธานี-รวบผู้ก่อเหตุวิ่งราวทองคำ 3 เส้น 3 บาท ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ อ้างถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเป็นหนี้

วันนี้ (01 ธ.ค. 66 )เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางสวรรค์ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี ได้นำตัว นายจงรัก ไพราม อายุ 27 ปี ผู้ก่อเหตุวิ่งราวทองคำ 3 บาท เป็นสร้อยคอหนัก เส้น ๆละ 1 บาท 3 เส้น จาก “ห้างทองวังทองสร้อย” ต.บางสวรรค์  เมื่อวันที่ 28 พ.ย.66 ที่ผ่านมา  แล้วหลบหนีไปที่ จ.ขอนแก่น จนกระทั่งตำรวจตามจับกุมได้ในพื้นที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น นำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

โดยผู้ก่อเหตุอ้างว่า ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงิน  ทำให้ตนเองต้องเป็นหนี้  ไม่มีเงินจ่าย จึงได้หาวิธีการที่จะเอาเงินไปใช้หนี้  ต่อมาเช้าวันที่ 28 พ.ย.66  ผู้ก่อเหตุจึงขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ110ไอ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1กล 7744 สุราษฎร์ธานี ซึ่งได้ถอดป้ายทะเบียนออกก่อนไปก่อเหตุ  ออกจากห้องเช่า ไม่มีชื่อ ซอยพรมราบ ต.อิปัน อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี มุ่งหน้าไปที่ ห้างทองวังทองสร้อยฯ เมื่อไปถึงได้เข้าไปทำทีเป็นขอดูทองคำรูปพรรณ โดยอ้างว่าจะซื้อ  เมื่อเจ้าของร้านเอาทองคำมาให้ดูแล้ว เห็นว่าในร้านไม่มีลูกค้า จึงเอาทองคำ แล้ววิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดหน้าร้าน ขับขี่อย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปที่ อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี

จากนั้นได้นำเอาทองคำจำนวน 1 เส้น น้ำหนัก 1 บาท ไปขายที่ร้านทองบริเวณ บ้านปลายหริก   อ.เคียนซา ในราคา  30,500 บาท โดยทางร้านได้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารทหารไทยธนชาต หมายเลข 4602352819 ชื่อบัญชี จงรัก ไพราม จำนวน 30,000 บาท เมื่อวันที่ 28 พ.ย.66 เวลาประมาณ 10.30 น.แล้วให้เงินสดอีก 500 บาท เมื่อขายทองแล้วได้กลับมาที่ห้องเช่า

ต่อมาได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันเดียวกันไปที่ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี แล้วได้นำทองคำอีก 1 เส้นน้ำหนัก 1 บาท ไปขายที่ร้านทองบริเวณ ตลาดบ้านส้อง อ.เวียงสระ ได้เงินสดจำนวน 31,000 บาท เมื่อขายทองเสร็จได้ไปที่เต็นส์รถ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อนำเงินที่ได้จากการขายทองไปไถ่ถอนรถยนต์ ของตนเองที่เอาไปจำนำไว้จำนวน 30,000 บาท เมื่อไถ่ถอนรถยนต์เสร็จ ได้กลับไปที่ห้องเช่า โดยเต็นส์รถ ขับรถยนต์มาส่งให้ เมื่อมาถึงห้องเช่าได้นอนพัก จนถึงเวลาประมาณ 20.00 น.ของวันที่ 28 พ.ย.66 จึงได้ขับรถยนต์ฯ ของตนเองหลบหนีไปที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ไปสถานที่ทำงานของแฟนสาว ที่ จ.ขอนแก่น จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในที่สุด ตามหมายจับของศาลจังหวัดเวียงสระ ที่ 248/2566 ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน”วิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน