สุราษฎร์ธานี-โจ๊กกะลา โจ๊กม๊ะหยาด เมนูอาหารเช้า หนึ่งเดียวในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มาตรฐานฮาลาล จากขายกาแฟได้วันละแก้วแต่ไม่ท้อ ทนขายมา 5 ปีวันละ1-5 แก้ว ก่อนที่จะเป็นวันละกว่า 100 พร้อมสูตรอาหารเช้าหลากหลายจนติดปากลูกค้า ขายไม่เกิน 2 ชั่วโมงหมดเกลี้ยง
ร้านอาหารเช้าโจ๊กม๊ะหยาด (อิสลาม) หรือแม่หยาด (ไทยพุทธ) ตั้งอยู่เยื้องถนนโฉลกรัฐ 16 เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เป็นร้านอาหารเช้าริมฟุตบาท ที่ปักร่มหลากสีสันให้ลูกค้าได้นั่ง ทุกตอนเช้าตรู่ตั้งแต่ 06.00 น.หรือ 6 โมงเช้า จนถึง 08.00 น. หรือ 8 โมง จะเต็มไปด้วยลูกค้าทั้งไทยพุทธและอิสลาม ต่างมาจับจองที่นั่งจิบน้ำชา กาแฟ และที่ขาดไม่ได้คือโจ๊กกะลา ที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน ที่นางหะหยาด (ม๊ะหยาด) ประสมแก้ว อายุ 70 ปีกับนายสุเทพ (ป๊ะเทพ) ประสมแก้ว อายุ 80 ปีที่คิดค้นสูตรอาหารเช้ากับชา กาแฟโบราณ มาตั้งแต่เป็นคู่รักหนุ่มสาว
โดยโจ๊ก หรือข้าวต้ม ที่หลากหลายเมนู นอกจากใช้ถ้วยเหมือนร้านทั่วไปแล้ว ยังใช้กะลามะพร้าว เป็นภาชนะใส่โจ๊ก โดยโจ๊กมีทั้งโจ๊กไก่ ,โจ๊กกุ้ง,โจ๊กปลากะพง ,โจ๊กรวมมิตร,ก๋วยจั๊บ ล้วนแล้วแต่น่ากินทั้งนั้น เพราะความที่ใช้วัตถุดิบสด ๆ สะอาด เนื้อปลากะพงชิ้นใหญ่ ๆ กุ้งตัวโต อีกทั้งน้ำจิ้มรสเด็ด เป็นที่ถูกอกถูกใจของลูกค้าเป็นอย่างมาก ส่วนราคาเป็นกันเองมีเมนูอาหารเช้าให้เลือกกว่า 50 รายการแล้วแต่ลูกค้า ทั้งขนมจีบ ,ซาลาเปา ,ข้าวเหนียวสังขยา ปาท่องโก๋ ข้าวเหนียวย่าง ที่ม๊ะหยาดทำเองทั้งหมด โดยมีลูกหลานในครอบครัวคอยเป็นลูกมือ ช่วยกันจัดจาด ช่วยกันเสิร์ฟ ส่วนม๊ะหยาดจะชงกาแฟ ชงชาเป็นหลัก
นางหะหยาด หรือม๊ะหยาด กล่าวว่า ก่อนหน้านี้สองตายายขายชากาแฟ และอาหารเช้าที่ อ.เคียนซา ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ประมาณ 60 กม.แต่เนื่องจากลูกสาวทำงานในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ลูกสาวเห็นว่าสองตายายอยู่กันตามลำพังและอายุก็มากแล้ว จึงอยากให้มาอยู่ในตัวเมือง จึงมาอยู่กับลูกสาวและรู้สึกเซ็งๆจากคนเคยทำงาน แต่ไม่ได้ทำอะไร นั่งๆ นอน ๆ จึงบอกกับลูกสาวขอขายชา กาแฟ หน้าสำนักงานที่ลูกสาวทำงาน ลูกสาวจึงได้ลงทุนให้ โดยวันแรกที่ขายเมื่อ 10 ปีที่แล้วทั้งวันขายกาแฟได้แก้วเดียว แต่ไม่ท้อขายมาเป็นปี วันละ 1-5 แก้ว ขายไปเรื่อยๆ กว่าลูกค้าจะติด และลูกค้ากาแฟแก้วแรกที่ขายได้ จนถึงปัจจุบันลูกค้าคนนั้นก็ยังมากินทุกวัน ส่วนการใช้กะลามาเป็นภาชนะใส่โจ๊ก ลูกสาวเป็นคนคิด มะหยาด กล่าวด้วยว่า การทำอะไรก็แล้วแต่ขอให้มีความอดทน ขยันอย่าท้อ
น.ส.จันทิมา ประสมแก้ว หรือดีเจขา นักจัดรายการวิทยุ ลูกสาวของม๊ะหยาด กล่าวว่า ที่ใช้กะลามะพร้าวมาเป็นภาชนะใส่โจ๊ก เมื่อช่วงโควิดที่ผ่านมา เพื่อต้องการให้เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน ดึงดูดลูกค้า โดยค้นหาจากอินเตอร์เน็ตและสั่งซื้อจากชาวบ้าน จนเป็นที่ถูกอกถูกใจของลูกค้า ที่สำคัญโจ๊กใช้วัตถุดิบ สดๆใหม่ทุกวัน ส่วนราคาก็ไม่แพง ราคาโจ๊กเริ่มต้นที่ 25 บาท ,โจ๊กกุ้ง 40 บาท,โจ๊กไก่,โจ๊กปลากะพง 60 และโจ๊กรวมมิตรทะเล (ไก่,กุ้ง,ปลา,ไข่) 100 บาท ส่วนชา กาแฟ แก้วละ 15 -30 บาท ขายตั้งแต่ 06.00 น.-11.00 น.ทุกวัน แต่ส่วนมากจะหมดก่อน ปิดวันอาทิตย์
นายแดง ภักดีบุญ อายุ 67 ปี กล่าวว่า มากินอาหารเช้าร้านนี้ตั้งแต่เริ่มเปิดใหม่ ๆ 10ปีแล้ว อร่อยมาก และราคาเป็นกันเอง ที่สำคัญใช้กะละเป็นภาชนะดูแปลกตาและ สวยดี.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: