จังหวัดสุราษฎร์ธานี แบ่งเขตการเลือกตั้ง ส.ส.เป็น 6 เขตเลือกตั้ง โดยเขตที่การแข่งขันรุนแรงและเป็นคู่เปรียบสำคัญหรือช้างชนช้างคือเขต 1 อ.เมือง ระหว่างพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ หรือลุงกำนันเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรค จัดส่งนายธานี เทือกสุบรรณ หรือกำนันเล็ก อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี น้องชายคนเล็กของลุงกำนันลงสนามแข่งเขตนี้ชนกับนายภาณุ ศรีบุศยกาญจน์ หรือรองแอ้ม อดีตรองนายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานีและอดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ลงแข่งขันในนามของพรรคประชาธิปัตย์ส่วนพรรคอื่น ๆ เป็นเพียงสีสันและลงเพื่อหยั่งเสียงเตรียมเลือกตั้งท้องถิ่นต่อไป
โดยที่ก่อนหน้านี้ทั้ง”ธานี เทือกสุบรรณ “และภาณุ ศรีบุศยกาญจน์”เป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์และทำงานคู่กันมาตลอด ซึ่งความได้เปรียบยังคงภาณุ ศรีบุศยกาญจน์ ที่ลงพื้นที่ตลอดและครอบครัวให้การสนับสนุนโดยพ่อแม่มีฐานเสียงสำคัญในเขต อ.เมืองอยู่แล้ว ขณะที่”ธานี เทือกสุบรรณ”มักจะช่วยเหลืองานสังคมดัง ๆทั้งท้องถิ่นและ ระดับชาติ จะออกครัวจิตอาสาใช้ชื่อ”ครัวกำนันเล็ก”อยู่บ่อยครั้งตั้งแต่ช่วยเหลือ 13 หมูป่าอะคาเดมีที่ จ.เชียงราย เป็นต้น
รองลงมาเป็นเขต 4 พรรครวมพลังประชาชาติไทย จัดส่ง”เชน เทือกสุบรรณ” น้องชายอีกคนของลุงกำนันอดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ หลายสมัย ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์จัดส่ง”สมชาติ ประดิษฐพร”หรือส.จ.อ้อย อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานีคนแรกที่มาจากการเลือกตั้ง แม้ว่าก่อนหน้านี้”สมชาติ”จะเป็นคู่แข่งกับพรรคประชาธิปัตย์มาตลอดแต่ครั้งนี้เมื่อสวมเสื้อพรรคประชาธิปัตย์ประกอบกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคลงพื้นที่เขต 4 หลายครั้งทำให้กระแสตอบรับดีพอสมควร ส่วนพรรคอนาคตใหม่ จัดส่ง”สมพล สิงหพล “หลานของภิญญา ช่วยปลอด อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ แม้ว่า”สมพล”จะคลุกคลีด้านการเมืองมานานพอสมควรแต่เสียงตอบรับยังน้อยกว่า 2 พรรคแรก
เขต 6 พรรครวมพลังประชาชาติไทย จัดส่ง “ภูมิ เทือกสุบรรณ”หรือ ส.จ.ภูมิ มีศักดิ์เป็นหลานชายของลุงกำนัน อีกคนที่แพ้ไม่ได้เช่นกัน ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ส่ง”นายธีรภัทธ พริ้งศุลกะ “ อดีต ส.ส.เชน ลูกชายของนางนิภา พริ้มศุลกะ อดีต ส.ส.7 สมัยพรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง 2 คนมีฐานเสียงพอๆกันและต้องงัดกลยุทธ์กันพอสมควร ส่วนพรรคอื่น ๆ อาจจะเป็นแค่ทางเลือก
ที่เหลือเขต 2 พรรคประชาธิปัตย์จัดส่ง”นายวิธวรรธน์ นิลวัชรมณี” ลูกชายของนายประวิช นิลวัชรมณี อดีต ส.ส.5 สมัย และพรรคนี้ได้รับแรงหนุนจากฐานเสียงของพรรค ปชป.โดยเฉพาะฐานเสียงของนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ในขณะที่พรรครวมพลังประชาชาติไทยจัดส่ง”ยอดขวัญ ชุมวาระ” นักธุรกิจส่วนตัวแปรอีกคนคือพรรคอนาคตใหม่ที่จัดส่งนายณัฐดนัย หีมทองหรือกำนันยศ อดีตกำนันดังในเกาะสมุย ที่มีฐานเสียงหลักใน อ.เกาะสมุย/เกาะพะงัน โดยสังเกตได้จากการปราศรัยของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคลงพื้นที่เกาะสมุยมีคนให้ความสนใจมาฟังการปราศรัยล้นหลาม
เขต 3พรรคประชาธิปัตย์จัดส่งน.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ ลูกสาวของนายชุมพล กาญจนะกับนางโสภา กาญจนะ อดีต ส.ส.หลายสมัยลงแข่งขันซึ่งเขตนี้พรรคประชาธิปัตย์น่าจะไม่พลาดและผ่านฉลุยเพราะทั้งชุมพลและโสภา พ่อแม่มีฐานเสียงเหนียวแน่น
และเขต 5 พรรคประชาธิปัตย์จัดส่งนายสินิตย์ เลิศไกร อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์หลายสมัยแม้จะไม่มีบทบาทมากนักแต่ฐานเสียงยังแน่น ขณะที่พรรครวมพลังประชาชาติไทยจัดส่งนายปรีติ เชาวลิต ส.อบจ.เขต อ.ชัยบุรี
อย่างไรก็ตาม ช่วงโค้งการหาเสียงช่วงต้นๆ จนถึงขณะนี้ พรรคประชาธิปัตย์ยังคงได้เปรียบและมีแนวโน้มอาจจะกวาดเรียบเพราะฐานคะแนนเสียงเดิมของพรรคประชาธิปัตย์แต่ละเขตมีอยู่แล้วเขตละไม่ต่ำกว่า 20,000 คะแนน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลุงกำนันแล้วจะงัดกลยุทธ์เด็ดออกมาตอนไหน ดึงเสียงกลับไปให้พรรครวมพลังประชาชาติไทยได้หรือไม่
