“เจ้าบุญรอด” วัวหนุ่มแสนรู้ถูกรถชนบาดเจ็บ ไร้เจ้าของตำรวจนำไปไว้ที่โรงพัก กู้ภัยรวบรวมเงินไถ่ชีวิตจากตำรวจ พร้อมทำสัญญาห้ามนำไปฆ่า มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี แต่ค่ารักษาสูงวอนสื่อประสานภาครัฐช่วยเหลือ
ที่บ้านเลขที่ 109/5 บ้านทุ่งเซียด หมู่ที่ 1 ตำบลท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี นายภานุวัฒน์ วงศ์วรรณ อายุ 37 ปี อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาประจำจุดท่าโรงช้างที่ได้ไถ่ชีวิตวัวหนุ่ม จากคดีรถจักรยานยนต์ชนและรถยนต์เข้าชนซ้ำวัวบาดเจ็บสาหัส ส่วนคู่กรณีคนขับรถจักรยานยนต์บาดเจ็บสาหัสเช่นกัน แต่หลังเกิดเหตุไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของวัว ตำรวจจึงนำวัวมาล่ามไว้ที่ป้อม กม.18 เพื่อจะประมูลขายนำเงินให้คู่กรณี แต่นายภานุวัฒน์เกิดความสงสารจึงรวบรวมเงินจากผู้มีจิตศรัทธาจำนวนหนึ่งไถ่ชีวิต และนำตัวมารักษาโดยได้ทำสัญญากับตำรวจว่าห้ามนำไปฆ่า มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีและได้ตั้งชื่อว่า”บุญรอด”
นายภานุวัฒน์ เล่าว่าเมื่อ เวลา 21.19 น.คืนวันที่ 11 เมษายน 2562 ศูนย์กู้ภัยท่าโรงช้าง( ศูนย์วิทยุพลายมงคล )รับแจ้งเหตุมี รถจักรยานยนต์ชนวัวมีผู้บาดเจ็บ ที่บริเวณหน้าบริษัท ไทยเบท ถนนสาย 41 ขาล่องใต้ ก.ม.172ม.5 ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี กู้ภัยจึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุนพิน พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนดา หมายเลขทะเบียน 1 กง 6054 จ.เพชรบูรณ์ โดยมีนาย เอกพัฒน์ จันทองอายุ 31 ปีอยู่บ้านเลขที่ 264 ม.9 ต.เขาพนม อ.เขาพนม จ.กระบี่เป็นผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีและ นางสาวปริญญา ก้อนทอง อายุ 23ปี คนซ้อนท้ายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และพบวัวเพศผู้อายุประมาณ 2 ปีเศษได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ในพื้นเกิดเหตุ ห่างไประมาณ 500 เมตรพบรถกระบะด้านหน้าพังยับอีก 1 คัน ส่วนผู้ขับขี่ปลอดภัย
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเบื้องต้น ทราบว่ารถจักรยานยนต์ได้ชนวัวเข้าอย่างจัง และเวลาเดียวกันรถกระบะที่วิ่งตามมาชนวัวซ้ำเข้าไปอีกครั้ง หลังเกิดเหตุไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของวัวตำรวจจึงนำวัวมาล่ามไว้ที่ป้อมตำรวจ กม.18 ทั้งที่บาดเจ็บสาหัส ตนเองได้เข้าไปดูแลวัวและทราบว่าทางตำรวจจะนำวัวที่บาดเจ็บไปประมูลขายและอาจจะถูกส่งเข้าโรงฆ่าสัตว์ ด้วยความสงสารจึงนำภาพวัวที่บาดเจ็บไปลงเฟสบุ๊คส่วนตัวโดยมีเพื่อนในเฟสได้แนะนำให้ไปไถ่ชีวิตจากคดี และมีหลายคนรวบรวมเงินโอนเข้าบัญชีได้หนึ่งหมื่นกว่าบาทจึงเข้าไปติดต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนทราบว่าตนและเพื่อนจะไถ่ชีวิตเพื่อนำไปรักษาจึงร่วมบุญกุศลมอบวัวให้แต่มีข้อแม้ห้ามนำวัวไปขายหรือฆ่า มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี จึงได้นำวัวมารักษาที่บ้านพักพร้องตั้งชื่อว่า”บุญรอด”และติดต่อโรงพยาบาลสัตว์ในตัวเมืองสุราษฎร์ธานีมารักษา แต่ค่ารักษาค่อนข้างสูงเนื่องจาก กรามวัวด้านล่างหัก กระดูกหน้าหัก เข่าด้านซ้ายหลุด จึงวอนขอผ่านสื่อขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยรักษา หากรักษาจนหายเป็นปกติแล้วจะนำไปถวายวัดที่มีความพร้อมรับวัวตัวนี้ไปดูแลต่อไป
จากการสังเกตเห็นว่าเจ้าบุญรอดค่อนข้างเป็นวัวที่แสนรู้และขี้อ้อน เมื่อนายภานุวัฒน์ และนางสุดรักษ์ สองสามีภรรยา เข้าไปดูแลและทำความสะอาดแผลจะพยายามคลอเคลียตลอดเวลา
