จากกรณีเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดแล้วเกิดปะทะกันขึ้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 1 นายคือดาบตำรวจปุณกฤษ (ปุน-นะ-กริด) บัวแก้ว อายุ 46 ปี ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สังกัดตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเสียชีวิตจากการปะทะกับแก๊งค้ายาเสพติด ขณะเข้าล่อซื้อยาเสพติดจนดาบตำรวจปุณกฤษ ล้มลง คนร้ายได้ขับรถเก๋ง รุ่นซิตี้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กพ 8874 สุราษฎร์ธานี ซึ่งนายสุรเชษฐ์ หวานเหลือ อายุ 24 ปี ได้ขับเข้าชน ด.ต.ปุณกฤษ โดยสภาพรถตกอยู่ข้างถนนสายเขื่อนเก่า-บางครก ม.6 ต.พังกาญจน์ อ.พนม ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 3 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้กันจุดเกิดเหตุและประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 8 เข้าตรวจเก็บพยานหลักฐาน ดังที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ ( 28 มิ.ย. 62 )พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บินด่วนลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 /พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าสอบปากคำ 2 ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุหลังจากตำรวจจับกุมตัวได้ในพื้นที่ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี ทั้ง 2 ราย โดยรายแรกที่จับได้ก่อน คือ นายสุรเชษฐ์ หวานเหลือ อายุ 24 ปี คนที่ขับรถเหยียบดาบตำรวจปุณกฤษ ทำให้อวัยวะภายในบอบช้ำ คือตับไตปอดแตกและซี่โครงหัก 11 ซี่ ส่วนนายวันชัย ชัยณรงค์ อายุ 28 ปี พยายามให้ญาติติดต่อมอบตัวแต่ไม่ทันได้มอบตัวถูกตำรวจบุกจับกุมได้เสียก่อน โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพ
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังจากสอบปากคำผู้ต้องหาว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการขยายผลจากผู้ต้องหาคนแรกที่จับกุมได้และตำรวจเข้าล่อซื้อจาก 2 ผู้ต้องหาจนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นและจะทำการตามข้อกฏหมายทั้งหมดเบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงาน/ครอบครองยาเสพติด และสั่งการให้เร่งการสอบสวนและแจ้งข้อหาเพิ่มขึ้นอีกหลายข้อหา อย่างไรก็ตามการกวาดล้างยาเสพติดต้องดำเนินการต่อเนื่องและกำชับเรื่องการเข้าตรวจค้นต้องปฏิบัติการตามยุทธวิธี
ขณะเดียวกันรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวของดาบตำรวจที่เสียชีวิตพร้อมมอบเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ตำรวจภาค 8 จำนวน 300,000 บาทและเงินช่วยเหลือข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตจากการปฎิบัติหน้าที่ จำนวน 500,000 บาท ในเบื้องต้นพร้องสั่งให้ทาง พล.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ตร.สุราษฎร์ธานีเร่งดำเนินเสนอเรื่องการช่วยตามระเบียบต่อสำนักงานตำรวจชาติอย่างเร่งด่วนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าสำหรับการช่วยเหลือตามระเบียบข้าราชการตำรวจประกอบด้วยเงินกองทุนสวัสดิการตำรวจเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายจำนวน 375,000 บาท/เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ตำรวจ(กรณีเป็นสมาชิก) 640,000 บาทเงินสมาคมแม่บ้านตำรวจ จำนวน 10,000 บาท/ เงินช่วยพิเศษ 3 เดือน 100,680 บาท/เงินบำเหน็จตกทอด 940,560 บาท/ความชอบเป็นกรณีพิเศษ 5 ขั้น 4 ชั้นยศ เลื่อนยศจากดาบตำรวจเป็นพันตำรวจตรีและบรรจุทายาท 1 คน/พรบ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา-ค่าตอบแทนจำนวน100,000 บาท/เงินรางวัลยาเสพติดเสนอไปยัง ปปส. จำนวน 200,000 บาท/เงินมูลนิธิ ป.ป.ส.ต้นสังกัดไปยัง ปปส.จำนวน 100,000 บาท รวมทั้งสิ้น 2,566,240บาท
