นายประวิทย์ ชัยสิทธิ์ อายุ57ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 ม.6 ต.บ้านเสด็จ อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี ถูกใบสั่งขับรถเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนด จากพื้นที่ จ.สิงห์บุรี และ จ.ฉะเชิงเทรา อย่างละใบส่งตรงถึงบ้าน ทั้งที่รถที่ตัวเองใช้งานอยู่แต่ในสวนที่บ้านและเป็นรถที่มีสภาพเก่ามากแล้ว โดยที่ในใบสั่งระบุชื่อ/ที่อยู่/ป้ายทะเบียนรถของตนเอง ได้แก่ป้าย บพ 3465สฎ. ยี่ห้อโตโยต้าสีขาวเหมือนกัน เพียงแต่รถ 2 คันที่ถูกใบสั่งนั้นเป็นรถที่มีสภาพใหม่กว่ารถตนเองหลายปี
ดังนั้นนายประวิทย์จึงนำเอกสารทั้งหมดไปแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เคียนซา และนำเอกสารไปให้เจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดสุราษฎร์ธานีสาขาอำเภอเวียงสระ สถานที่จดทะเบียนรถตรวจสอบเพื่อยืนยันว่ารถตนเองนั้นถูกสวมทะเบียนถึง 2 คัน
นายประวิทย์ กล่าวว่าตนเองกลัวว่าถ้าเกิดรถทั้ง 2 คัน ที่ทางตำรวจยังจับไม่ได้กลัวว่าอาจจะนำไปกระทำความผิดที่ร้ายแรง เรื่องก็จะกลับมาหาตนเองได้ ตนเองอยากฝากบอกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาชี้แจงให้ตนเข้าใจด้วย
ขณะที่นายสุนทร ลายพัฒน์ นายช่างชำนาญงาน สำนักงานขนส่งจังหวัดสุราษฎร์ธานีสาขาอำเภอเวียงสระ ได้ตรวจสอบและตั้งข้อสังเกตุว่ารถ 2คันที่โดนใบสั่งนั้นผิดแปลกตรงที่รถรุ่นนี้ หมวดอักษรที่ขึ้นต้นด้วย บพ นั้นก็เป็นที่ผิดสังเกตุแล้ว ความจริงรถรุ่นนี้ต้องขึ้นต้นด้วยหมวดอักษร ก จึงจะถูกต้อง และได้แนะนำให้นายประวิทย์ไปแจ้งความอีกครั้งเพื่อนำเอกสารทั้งหมดส่งไปยังปลายทางที่ออกใบสั่งให้ยกเลิกใบสั่ง
