เจ้าท่าจังหวัดสุราษฎร์ธานีใช้ยาแรงหลังถูกอธิบดีกรมเจ้าท่าคนใหม่จี้เจ้าหน้าที่อย่าทำตัวเป็นมังกรที่หลับไหลปล่อยให้มีการฝ่าฝืนกระทำความผิดรุกล้ำลำน้ำมาอย่างต่อเนื่องล่าสุดวันนี้นำกำลังบุกจับคนงานสร้างขนำกลางทะเลเพื่อเฝ้าหอยแครงโดยไม่ได้รับอนุญาต ได้ผู้ต้องหา 5 คน ของกลางเป็นเรือหางยาวพร้อมอุปกรณ์ก่อสร้างจำนวนมากถูกนำตัวมาดำเนินคดี 3 ข้อหาหนัก
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้(2 ตุลาคม2562 ) นายลพบุรี โยธาศิริ นักวิชาการขนส่งชำนาญการ ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าชุดปราบปรามสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสุราษฎร์ธานี พร้อมกำลังลงเรือตรวจการณ์ออกตรวจพื้นที่ปากร่องอ่าวบ้านดอน อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี พบกลุ่มบุคคลจำนวน 5 คนกำลังก่อสร้างขนำหรือที่พักไว้เฝ้าหอยแครงกลางทะเล จึงเข้าไปตรวจสอบพบว่าการก่อสร้างไม่ได้ขออนุญาตจากเจ้าท่า เรือไม่มีทะเบียนเรือ ผู้ขับเรือหรือนายท้ายเรือไม่มีใบอนุญาต จึงทำการตรวจยึดของกลางที่ประกอบด้วยแผ่นไม้กระดาน เสาไม้จำนวน 6 ต้น เครื่องปั่นไฟ สว่านไฟฟ้า เครื่องตัดและอุปกรณ์การก่อสร้างอีกหลายรายการนำตัวไปส่งพนักงานสอบสวนทำการบันทึกการจับกุมและยึดของกลางดำเนินคดีใน 3ข้อหา 1.สร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าท่า 2.เรือผิดกฎหมายเนื่องจากไม่ได้ขึ้นทะเบียนเรือ 3.นายท้ายไม่มีใบอนุญาตควบคุมเรือ
นายลพบุรี โยธาศิริ กล่าวว่า ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2562 ทางเจ้าท่าจังหวัดจะเริ่มใช้มาตรการที่เข้มข้นในตรวจกวดขันผู้บุกรุกลำน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะอธิบดีกรมเจ้าท่าคนใหม่ได้ให้นโยบายไว้ว่า เจ้าท่าเปรียบเสมือนมังกรที่หลับใหลมานาน บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่เจ้าท่าจะต้องตื่นขึ้นมาทวงพื้นน้ำที่ถูกบุกรุกคืน พร้อมกล่าวเตือนผู้ที่ก่อสร้างขนำเฝ้าหอยแครงหรือหอยนางรมนั้นหากไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าท่ายังไม่สามารถดำเนินการปลูกสร้างได้ก่อน หากก่อสร้างไปก่อนแล้วเจ้าท่าจะใช้มาตรการจับกุมและส่งพนักงานสอบสวนเจ้าของพื้นที่เพื่อดำเนินคดีทันที ซึ่งมีโทษหนักถึงจำคุก
