ตาก – กฟผ. ผนึก ภาคีเครือข่าย จัดงาน ‘พลังงานสรรค์สร้างพลังแผ่นดิน เพื่อการฟื้นฟูโลก’เนื่องใน ‘วันดินโลก’ 5 ธันวาคม แสดงพลังความร่วมมือ และแสดงเจตนารมณ์ น้อมนำ-สืบสานศาสตร์พระราชาฯ เป็นแนวทางแก้ปัญหาชุมชน สร้างความมั่นคงทาง น้ำ อาหาร แพลังงาน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้เข้มแข็ง
นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ‘พลังงานสรรค์สร้างพลังแผ่นดิน เพื่อการฟื้นฟูโลก (Energy Drive Ecosystem)’ และร่วมเป็นสักขีพยาน ในการแสดงเจตนารมณ์ ความร่วมมือการสืบสานศาสตร์พระราชาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สู่เป้าหมาย ‘ความยั่งยืนโลก’ ระหว่าง กฟผ. และอีก 5 หน่วยงาน คือ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ, มูลนิธิรักษ์ดินน้ำ Earth Safe Foundation และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)
โดยมีผู้บริหาร กฟผ. หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดตาก ชุมชนแม่แจ่ม ชุมชนรอบเขื่อน โรงไฟฟ้า จิตอาสา 904 วปร. และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมงานกว่า 500 คน เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2562 ณ เขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา จังหวัดตาก
นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพลังงาน ระบุว่า งาน ‘พลังงานสรรค์สร้างพลังแผ่นดิน เพื่อการฟื้นฟูโลก’ เป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างหน่วยงานหลายภาคส่วน ที่จะเป็นก้าวสำคัญ นำไปสู่การขยายความร่วมมือในทุกภาคีเครือข่ายต่อไป โดยน้อมนำศาสตร์พระราชา ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้แก่ชุมชน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย กระทรวงพลังงาน มีนโนบาย Energy For All มุ่งสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง และให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาพลังงานในพื้นที่ และเป็นเจ้าของพลังงาน บริหารจัดการพื้นที่แบบโคก หนอง นา โมเดล เพื่อพัฒนาน้ำ อาหาร และพลังงาน ซึ่งเป็นปัจจัยจำเป็นพื้นฐานของมนุษย์ และเป็นการใช้พื้นที่ของชุมชนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ด้าน นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ. เปิดเผยว่า กฟผ.ให้ความสำคัญ การดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนทุกโครงการของ กฟผ. อาทิ โครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โครงการปลูกป่า กฟผ. ได้น้อมนำศาสตร์พระราชา ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 และน้อมนำพระปฐมบรมราชโองการของ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ในการ “สืบสาน รักษา ต่อยอด” พระราชกรณียกิจของพระบรมราชชนก มาเป็นแนวทางในการดำเนินงาน เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่สมดุล ทั้งด้านคน เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ในการพัฒนาประเทศให้มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
การแสดงเจตนารมณ์ความร่วมมือ การสืบสานศาสตร์พระราชาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สู่เป้าหมายความยั่งยืนโลก ระหว่าง กฟผ. กระทรวงพลังงาน และอีก 5 หน่วยงาน ภายใต้กรอบระยะเวลา 3 ปี เป็นการแสดงถึงความร่วมมือกัน ระหว่างหน่วยงานหลายภาคส่วน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานที่มุ่งแก้ปัญหาใน 3 ประเด็นหลัก คือ น้ำ อาหาร และพลังงาน เพื่อสร้างความมั่นคงตามเป้าหมายความยั่งยืนโลก (SDGs) โดยเปิดโอกาสให้ชุมชนท้องถิ่นและประชาชนทั่วไป ได้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน และเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้เข้มแข็งต่อไป
ผู้ว่าการ กฟผ. เปิดเผยด้วยว่า กฟผ. มีแผนน้อมนำศาสตร์พระราชาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน มาพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำในบริเวณ ‘เขื่อน 7 พระนาม 3 โรงไฟฟ้า’ ได้แก่ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่องแห่งแรก, เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์, เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี, เขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี, เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น, เขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ, โรงไฟฟ้าแม่เมาะ จ.ลำปาง, โรงไฟฟ้าวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และโรงไฟฟ้าบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
ช่วงเช้าวันเดียวกัน ยังมีการแสดงพลังแห่งความร่วมมือจากทุกภาคีเครือข่าย ด้วยกิจกรรมโบกธงแสดงเจตนารมณ์ สืบสานศาสตร์พระราชาเนื่องในวันดินโลก ณ บริเวณสันเขื่อนภูมิพล และมีกิจกรรมเสวนาในหัวข้อ ‘เป้าหมายโลกคือเป้าหมายเราด้วยศาสตร์พระราชา’บรรยายถึงความสำคัญ พร้อมผลักดันประชาชนให้ร่วมกันขับเคลื่อนและพัฒนาชุมชนสู่เป้าหมายความยั่งยืนระดับโลก
|
นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการและผลงานศาสตร์พระราชาของชุมชน สิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมการเกษตร พลังงานเพื่อชุมชนต่าง ๆ
