กรุงเทพฯ – ‘ศักดิ์สยาม’ สั่ง ขบ.เร่งศึกษาเก็บค่าธรรมเนียมรถที่ก่อปัญหา PM 2.5 ภายใน 30 วัน คาดมีผลบังคับใช้ภายในปีนี้ พร้อมเข้มตั้งด่านตรวจควันดำทั่วประเทศคาดโทษปรับ 50,000 บาท ฟาก “กรมรางฯ” ปิ้งไอเดีย เล็งถกร่วม รฟม. ลดค่าจอดรถPark & Ride 50% หวังดึงคนใช้รถไฟฟ้าช่วยลดฝุ่นมากขึ้น พ่วงแก้ปัญหาจราจร-ลดค่าใช้จ่าย ปชช.
วันที่ 24 มกราคม 2563 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ศึกษาแนวทางการจัดเก็บค่าธรรมเนียมและภาษีการต่อใบอนุญาต รวมถึงจดทะเบียนรถใหม่ รถยนต์ทุกประเภทที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน และไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรี ที่สั่งการให้แก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยหลังจากนี้กระทรวงคมนาคมจะต้องบูรณาการประสานงานร่วมกับกระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงการคลัง พร้อมความร่วมมือจากภาคประชาชนด้วย
ขบ.ยังจะต้องศึกษาการปรับปรุงการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต เพื่อเป็นมาตรการสำหรับกำหนดให้รถที่ใช้พลังงานสะอาดราคาถูกลง พร้อมพิจารณาการดำเนินการรองรับในทุกด้าน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้รถระบบไฟฟ้า (EV) รวมถึงเชื้อเพลิง NGV และเชื้อเพลิงไบโอดีเซล B20 มากขึ้น
โดยกำหนดระยะเวลาศึกษาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน จากนั้นจะมีการจัดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ก่อนจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบ หากเห็นชอบคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในปีนี้
ข่าวน่าสนใจ:
- นายก อบจ.ระยอง ประกาศลาออกก่อนครบวาระ 1 วัน พรัอมลงชิงชัยตำแหน่งนายก อบจ.ระยอง อีกหนึ่งสมัย
- กฟผ.แม่เมาะ มอบความสุข สไตล์บาหลี อินโดนีเซีย ในงานฤดูหนาวและของดีนครลำปาง
- โครงการวิลล่าหรูเกาะสมุยฝืนคำสั่งรื้อถอนอาคาร ยังปล่อยให้ต่างชาติเช่าวิลล่า
- กกต.ตรัง พร้อมเปิดสนาม จัดเลือกตั้งอบจ. เปิดยิม 4,000 ที่นั่งรับสมัคร พื้นที่กว้างขวางรองรับกองเชียร์ผอ.กกต.ตรัง เผยการข่าวพบ 3…
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า การประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่1/2563 เมื่อ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ที่ประชุมเห็นชอบร่วมกันให้ยกระดับปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นวาระแห่งชาติ และขอให้นำมาตรการตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองPM 2.5 ที่
ครม.มีมติเห็นชอบเมื่อ 1 ต.ค. 2562 มาบังคับใช้ แบบ Single Command และพล.อ.ประวิตรฯ ยังได้มีข้อสั่งการให้ผู้ราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้พิจารณามาตรการที่จะเข้มขันขึ้นตามสภาพการณ์ที่เหมาะสมกับปริมาณฝุ่น PM 2.5 เพื่อไม่ให้มีผลต่อสุขภาพของประชาชน
ที่ประชุมยังสั่งการให้กระทรวงคมนาคมจัดหาเครื่องมือตรวจวัดควันดำ (แบบทึบแสง) เพิ่มเติมให้เพียงพอ พร้อมให้ ขบ.และตำรวจ เพิ่มความเข้มขันในการตั้งด่านตรวจควันดำให้ครบทั้ง 50 จุดทั่วกรุงเทพฯ ตามมติ ครม. 21 ม.ค. ซึ่งตนเองได้สั่งการเพิ่มเติม ให้ตรวจควันดำทั้งประเทศ เพื่อให้สามารถป้องกันได้ตั้งแต่ต้นทาง
นอกจากนี้ ยังให้ส่วนราชการตรวจสอบยานพาหนะของส่วนราชการเองให้อยู่ในสภาพที่ดี ไม่มีควันดำ รวมถึงให้ส่วนราชการพิจารณาการปรับการทำงานเหลื่อมเวลา และให้ราชการลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลและส่งเสริมสนับสนุนให้ใช้ระบบขนส่งสาธารณะในการเดินทาง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวต่อว่า สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) รายงานการตรวจสอบควันดำ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.62 – 22 ม.ค.63 ว่าขบ.ได้ตรวจสอบรถบรรทุก ,รถโดยสารที่มีควันดำเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 57,971 คัน ตรวจพบรถควันดำเกินกฎหมายกำหนด 1,087 คัน ซึ่งได้พ่นเครื่องหมายห้ามใช้ไปแล้ว ถ้านำรถกลับมาให้โดยยังไม่ผ่านการตรวจสอบจะมีโทษปรับครั้งละ 50,000 บาท
สำหรับรถส่วนบุคคลจะขึ้นกับพระราชบัญญัติจราจรที่อยู่ภายใต้อำนาจหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)จะมีโทษปรับครั้งละ 1,000 บาท รวมถึงสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯจัดทำแผนรายงานดำเนินการแก้ไขปัญหาของแต่ละหน่วยงานอย่างไรทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยได้มีการหน่วยงานที่มีการบริการสาธารณะเป็นพิเศษเช่น รถเมล์ ขสมก., รถร่วมบริการ และรถ บขส. รวมถึงการรถไฟฯ เป็นต้น
ด้านกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เตรียมหารือร่วมกับ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ลดอัตราค่าจอดรถ 50% ในอาคารจอดแล้วจร (PARK & RIDE) ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า ทั้งยังเป็นการแก้ไขปัญหาจราจร และถือเป็นมาตรการในการลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนด้วย
ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง มีพื้นที่จอดรถ 4 แห่ง จอดรถได้รวม 4,923 คัน ค่าจอดรถผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า จะอยู่ที่ 2 ชั่วโมง ราคา 10 บาท หรือจอดทั้งวัน 180 บาท
ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน มีพื้นที่จอดรถ 12 แห่ง จอดรถได้รวม 4,000 คันอัตราค่าจอดรถผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า จะอยู่ที่ 2 ชั่วโมง ราคา 10 บาท
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: