นนทบุรี – ที่ประชุม 3 กระทรวง หามาตรการรับมือ ‘ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่’ เตรียมเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการระดับชาติ ให้รัฐบาลมีอำนาจพิเศษบริหารสถานการณ์ ‘อนุทิน’ ยืนยัน ควบคุมสถานการณ์ได้ ยังไม่ถึงขั้นปิดประเทศ
วันที่ 26 ม.ค.2563 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เชิญ ผู้บริหาร 3 กระทรวง ประกอบด้วย กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในประเทศไทย ณ กระทรวงสาธารณสุข ก่อนจัดทำมาตรการนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่ 28 ม.ค.นี้
นายอนุทิน ระบุว่า ในทางปฏิบัติถือว่ายังควบคุมสถานการณ์ได้ แม้จะพบผู้ป่วยติดเชื้อ แต่สามารถรักษาให้หาย หลายรายกลับภูมิลำเนาแล้ว และผู้ป่วยยืนยันทุกรายที่พบ ติดเชื้อมาจากต้นทาง คือ เมืองอู่ฮั่น ที่ต้องเชิญประชุม เพราะขณะนี้ประชาชนรับรู้เพิ่มมากขึ้น การเสนอข่าวจากหลายทิศทางอาจทำให้เกิดความสับสนและโกลาหลมากขึ้น นายกรัฐมนตรีแสดงความเป็นห่วง จึงมอบให้ตนเองรายงานความจริงให้ประชาชนทราบมากที่สุด ไม่ปิดบังเสริมเติมแต่งข้อมูล ปัจจุบันมีการแถลงข่าวทุกวัน แต่ต่างคนต่างทำ การบูรณาการความร่วมมือยังเป็นเพียงวาจา จึงขอให้เป็นการเฝ้าระวังระดับชาติ รัฐบาลต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการหามาตรการป้องกันโรคให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
อย่างไรก็ตาม แม้เมืองอู่ฮั่นจะปิดเมืองแล้ว แต่ยังมีโอกาสที่ผู้ป่วยจะเดินทางมาจากเมืองอื่น ๆ เช่น กว่างโจว เซี่ยงไฮ้ กรุงปักกิ่ง จากเมืองอื่น ๆ ก็ต้องดูว่าจะสแกนทั้งประเทศจีน ด้วยความเข้มข้นอย่างไร เมืองไหนที่จะเข้มข้นเป็นพิเศษ ขอความร่วมมือ ตม. สนามบิน ให้ความร่วมมือสแกนผู้ป่วย 2 ขยัก คือ หน้าประตูที่เครื่องมาลง และด่านตรวจคนเข้าเมือง ดังนั้น โอกาสที่จะหลุดรอดจึงน้อยมาก
การประชุมวันนี้ เพื่อจัดทำมาตรการเสนอ ครม. ให้ตั้งคณะกรรมการระดับชาติ เพื่อบริหารจัดการ และอาจจะต้องยกระดับเป็นสถานการณ์ และมีอำนาจพิเศษในการบริหารสถานการณ์ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่น และยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ กินร้อนช้อนกลางล้างมือ ไม่ไปสถานที่แออัด โอกาสที่จะติดเชื้อนี้น้อยมาก ส่วนการหามาตรการต้องไม่ใช่แบบกำปั้นทุบดิน และถ้าจะปิดประเทศเลยก็ไม่สามารถทำได้ สถานการณ์ยังไม่ถึงจุดนั้น หากตัดสินใจเร็วเกินไปจะกระทบประชาชน รวมถึงผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว
“ส่วนที่จีนปิดเมืองและห้ามการเดินทางในหลายเมือง ขณะที่ฮ่องกง ไต้หวัน มีมาตรการหยุดเรียน ห้ามคนเข้าประเทศจีน เรียนว่าแต่ละประเทศมีเงื่อนไข และวิธีการรับมือกับสถานการณ์แตกต่างกันไป แต่ประเทศไทยมีประสบการณ์ในการรับมือความเป็นไปได้ ในการระบาดของโรคแบบข้ามประเทศมาหลายครั้ง และทำได้เป็นอย่างดี ดังนั้น ขอให้มั่นใจ บางครั้งรุก เราก็รุกเต็มที่ ถ้าบางครั้งต้องรับ ก็ต้องรับอย่างมีสติ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชน และระบบเศรษฐกิจต่างๆที่กำลังไปด้วยดี” นายอนุทิน กล่าว
