กรุงเทพฯ – ผู้บัญชาการทหารบก แถลงแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ จ.นครราชสีมา ระบุ มูลเหตุเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บังคับบัญชา น้ำตาซึม ขออย่าด่ากองทัพบก ให้มาด่าตนเอง พร้อมเปิดช่องร้องเรียนแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก แถลงข่าวเหตุการณ์ จ่าสิบเอกจักรพันธ์ ถมมา ทหารค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ใช้อาวุธปืนสงคราม กราดยิงเจ้าหน้าที่และประชาชน ที่จังหวัดนครราชสีมา ระบุว่า ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก ต้องขอโทษและแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อเหตุการณ์สะเทือนขวัญในครั้งนี้ ตามที่ผู้ก่อเหตุเป็นกำลังพลของกองทัพบก และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของประชาชน ตลอดจนข้าราชการที่ต้องเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ และเสียใจกับประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
ระหว่างการแถลงข่าว ผู้บัญชาการทหารบก ยังมีอาการน้ำตาเอ่อซึมเป็นระยะ และเมื่อแถลงเสร็จ ยังหันหลังยืนใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตา
“ขอให้ทุกคนอย่าตำหนิกองทัพบกหรือทหารให้เสียกำลังใจ แต่ขอให้มาตำหนิที่ผม ในฐานะเป็นผู้บัญชาการ ก็น้อมรับคำตำหนิ และการแสดงความคิดเห็นทุกอย่าง แม้จะเหลือเวลาอีกเพียง 7 เดือนในฐาน ผบ.ทบ. แต่จะไม่ย่อท้อ พร้อมจะเพิ่มมาตรการต่าง ๆ และปรับปรุงพัฒนาบุคลากร เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กลับมา โดยใช้อำนาจหน้าที่อย่างดีที่สุด”
พลเอกอภิรัชต์ ยังลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง
ตั้งแต่ เวลา 14.00 น. วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผู้ก่อเหตุใช้ปืนส่วนตัว 5 ชนิด ตัดสินใจสังหารคู่กรณีและเครือญาติ ณ บ้านพักส่วนตัวของคู่กรณี
ต่อมา 15.00 น. ใช้รถยนต์ส่วนตัวขับเข้ามาที่ กองรักษาการณ์กองพันกระสุนที่ 22 และใช้อาวุธปืนขู่เจ้าหน้าที่ยามรักษาการณ์ ให้ส่งมอบอาวุธปืน hk 33 พร้อมกระสุนอีก 40 นัดให้ และปล้นปืนจากทหารรักษาการณ์ ขับรถต่อ มาที่กองร้อยรักษาการณ์ ยิงพลทหารที่รักษาการณ์คลังอาวุธจนเสียชีวิต และขโมยปืน กราดยิงยามที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
แล้วขับรถต่อมาที่บริเวณด้านหลังกองพัน ขโมยรถจิ๊บ ไม่ใช่รถฮัมวีอย่างที่สื่อมวลชนเข้าใจ ก่อนขับรถต่อไปยังคลังเก็บกระสุน ขโมยกระสุนที่ใช้กับปืน hk 33 ต่อมา ขับรถออกไปจากค่ายทหารและไปก่อเหตุภายนอก ตามลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผู้บัญชาการทหารบก ระบุว่า มูลเหตุของผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ เนื่องจากเหตุไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บังคับบัญชาและเครือญาติ เรื่องการซื้อขายที่ดิน เป็นการผิดสัญญาเรื่องผลตอบแทน รายละเอียดจะต้องสืบต่อไป ว่ามีใครเกี่ยวข้องในระดับผู้บังคับบัญชาบ้าง
จึงจะเปิดช่องทางการร้องเรียนโดยตรงให้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถูกเอาเปรียบ และเน้นย้ำผู้บังคับบัญชาที่ไม่ใส่ใจดูแลทุกข์สุข ของผู้ใต้บังคับบัญชา มั่นใจว่าช่องทางที่เปิดนี้ จะเป็นความลับที่สุด แต่จะต้องแสดงตัวตัว ว่าเป็นใคร อยู่หน่วยไหน และจะดำเนินการลงโทษอย่างเต็มที่ ต่อผู้บังคับบัญชาที่กระทำผิด
พร้อมยืนยันว่า มีมาตรการรักษาความปลอดภัย ทั้งคลังอาวุธและกระสุน กองทัพบกมีมาตรการมานาน ไม่ใช่วัวหายล้อมคอก แต่ยอมรับว่ามีบางหน่วยที่หละหลวม ขึ้นอยู่กับความใส่ใจของผู้บังคับบัญชา จึงจะลงโทษและจะต้องมีมาตรการเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ก่อการปฏิบัติภารกิจอยู่ในหน่วยนั้น มีความชำนาญในการใช้อาวุธ และทราบรายละเอียดในพื้นที่หน่วยเป็นอย่างดี
ส่วนการบริหารสถานการณ์ในพื้นที่เกิดเหตุนั้น ผู้บัญชาการทหารบก ยืนยันว่าเป็นไปตามกฎหมาย โดยให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ขณะที่ตนเองและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้ประเมินสถานการณ์ และสนับสนุนกำลังเมื่อได้รับการร้องขอ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสั่งการว่า การจัดการทุกอย่างขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน จึงขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องใช้ความระมัดระวัง ปฏิบัติตามขั้นตอน เพื่อให้ประชาชนที่ยังติดอยู่ในห้าง อยู่ในสภาพปลอดภัยมากที่สุด
พลเอกอภิรัชต์ ยังกล่าวชื่นชมเจ้าหน้าที่ รวมถึงทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันจนฝ่าฟันวิกฤติในครั้งนี้ให้ผ่านพ้นไปได้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กองทัพบกพร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มขีดความสามารถ ให้ญาติหรือครอบครัวเข้ารับบรรจุเป็นทหาร ตามคุณวุฒิการศึกษาหากมีความประสงค์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: