กรุงเทพฯ – ผลการสำรวจ พบ คนไทยเชื่อข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนาและการติดต่อ จากทีวีมากกว่าเฟซบุ๊ก แต่ความเข้าใจและรับรู้ข้อมูลยังอยู่ระดับปานกลาง แนะผู้รับผิดชอบ พัฒนาวิธีการพูดและการให้ข้อมูลที่เข้าถึงและเข้าใจง่าย
ศ.ดร.นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับ รศ.ดร.ชะนวนทอง ธนสุกาญจน์ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) ร่วมกันเปิดเผย ผลการศึกษา เรื่อง ‘ไวรัสโคโรนาที่ประชาชนรับรู้’ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ 1,201 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 8 – 11 กุมภาพันธ์ 2563 พบว่า
ประชาชนสนใจและติดตามข่าวสารเรื่องไวรัสโคโรนา มากถึงมากที่สุด ร้อยละ 56.6 และสนใจในระดับปานกลาง ร้อยละ 27.8 โดยมีช่องทางการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร มากที่สุดผ่านสื่อเฟซบุ๊ก ร้อยละ 66.7 และสื่อโทรทัศน์ร้อยละ 66.6
ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 37.2 เชื่อมั่นข้อมูลจากสื่อโทรทัศน์ มีเพียงร้อยละ 14 ที่เชื่อมั่นสื่อเฟซบุ๊ก
ข่าวน่าสนใจ:
ส่วนความเข้าใจและการรับรู้ข้อมูลของประชาชน เกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนาและการติดต่อ พบว่ามีความเข้าใจที่ถูกต้องในระดับปานกลาง โดยร้อยละ 71.5 เชื่อว่าเชื้อไวรัสโคโรนา ล่องลอยทั่วไปในอากาศ แหล่งชุมชน คนหนาแน่น ร้อยละ 79.6 ยังคิดว่าตนเองไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสนี้ และประชาชนส่วนใหญ่ ค่อนข้างทราบวิธีป้องกันจากไวรัสเมื่อต้องออกนอกบ้าน ได้แก่ ร้อยละ 83.4 ระบุว่าใช้หน้ากากอนามัย ร้อยละ 60.4 ล้างมือบ่อยๆ และร้อยละ 56.9 ใช้เจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อที่ฝ่ามือ
สำหรับการรับรู้ต่อการติดต่อของเชื้อไวรัสโคโรนาในสถานการณ์ต่าง ๆ พบว่า ส่วนใหญ่หรือ ร้อยละ 86.0 คิดว่าเดินห้างสรรพสินค้าติดเชื้อไวรัสได้ ร้อยละ 83.5 คิดว่าการนั่งเครื่องบินลำเดียวกันติดเชื้อไวรัสได้ ร้อยละ 83.0 คิดว่าการไปเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติติดเชื้อไวรัสได้ ร้อยละ 82.1 คิดว่าการขึ้นรถเมล์ รถแท็กซี่ รถไฟฟ้า ติดเชื้อไวรัสได้ ขณะที่ร้อยละ 81.3 คิดว่าการนั่งทานอาหารร่วมโต๊ะวงเดียวกัน ติดเชื้อไวรัสได้ และร้อยละ 47.5 คิดว่าการฟังเพลงร่วมกัน ติดเชื้อไวรัสได้
ที่น่าพิจารณา คือ ความต้องการของประชาชนต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า ร้อยละ 61.5 ต้องการให้แจกหน้ากากอนามัย ร้อยละ 51.2 ต้องการให้มีศูนย์ปฏิบัติการที่ให้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรค การป้องกัน โรค และประชาสัมพันธ์ ให้ทราบข้อมูลที่เชื่อถือได้และเป็นจริง และร้อยละ 45 ต้องการให้แจกเจลล้างมือ
คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เสนอแนะว่า ผู้รับผิดชอบทุกภาคส่วนต้องพัฒนาวิธีการพูด การให้ข้อมูลง่าย ๆ ให้ประชาชนเข้าใจ ในเรื่อง
1.การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ปชช.ส่วนใหญ่ (ร้อยละ 70) คิดว่าเชื้อไวรัสจะล่องลอยอยู่ในอากาศ
2.โอกาสติดเชื้อ ส่วนใหญ่ (ร้อยละ 80) ยังไม่คิดว่าตนเองจะติดเชื้อไวรัสได้
3.การดูแลตนเองและคนใกล้ชิด ส่วนใหญ่ (ร้อยละ 80) เน้นใส่หน้ากากอนามัย แต่มีจำนวน น้อยที่ล้างมือบ่อย ๆ และระวังตัวเรื่องการใช้มือลูบหน้า แคะจมูก ปาก ตา
4.การดูแลคนใกล้ชิด ประมาณร้อยละ 80 ตอบว่า พาไปโรงพยาบาล
5.การดูแลคนในที่ทำงาน ประมาณร้อยละ 60 ให้พักงาน ซึ่งประเด็นนี้จำเป็นต้องมีการสื่อสารให้ ชัดเจนกว่านี้ เช่น ที่ทำงานอาจมีการคัดกรอง หรือวัดไข้ เพื่อเฝ้าระวังการเกิดโรคในที่ทำงาน และที่โรงพยาบาล ควรมีการแจ้งจุดและขั้นตอนในการตรวจรักษาที่เห็นได้ชัด สะดวกต่อการไปใช้บริการ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: