นนทบุรี – สาธารณสุขเผยผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ COVID-19 กลับบ้านได้อีก 1 คน เป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีน ขณะนี้เหลือรักษาใน ร.พ.อีกเพียง 14 คน ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสะสม 1,355 คน คัดกรองกว่า 3 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2563 นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค, นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และนายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือโควิด-19 ประจำวัน ว่าวันนี้มีผู้ป่วยยืนยันกลับบ้านได้เพิ่มอีก 1 คน เป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนอายุ 54 ปี รักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ทำให้ขณะนี้มีผู้ป่วยยืนยันรักษาหายกลับบ้านแล้ว 21 คน คิดเป็นร้อยละ 60 ของผู้ป่วยในประเทศไทย เหลือนอนในโรงพยาบาล 14 คน ส่วนใหญ่อาการดีขึ้น ส่วนผู้ป่วยที่ใช้เครื่องเอคโม (ECMO) หรือเครื่องช่วยพยุงการทำงานของปอด และรายที่เป็นวัณโรคร่วมด้วย อาการคงที่ ยังคงใช้เครื่องช่วยหายใจทั้ง 2 ราย
ส่วนการเดินทางระหว่างประเทศ องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังไม่มีคำแนะนำห้ามเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาด และยังไม่กำหนดเป็นมาตรการที่จำเพาะ สำหรับผู้เดินทางระหว่างประเทศ สำหรับประเทศไทย ได้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังและคัดกรอง ผู้เดินทางระหว่างประเทศ ในทุกช่องทางเข้า-ออกประเทศ ครอบคลุม ทั้งด่านบก เรือ อากาศ ตลอดจนการเฝ้าระวังที่โรงพยาบาลทุกแห่งทั้งรัฐและเอกชน
พร้อมขอความร่วมมือ ประชาชนที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีรายงานการระบาดอย่างต่อเนื่อง หรือมีการระบาดภายในประเทศ ได้แก่ จีน (รวมฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน) ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ รับผิดชอบต่อสังคม โดยเฝ้าระวังอาการตนเองอย่างน้อย 14 วัน งดไม่ไปที่ชุมชน งดใช้ขนส่งสาธารณะ งดใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น หากมีอาการสงสัยป่วย ขอให้สวมหน้ากากอนามัย วัดไข้ทุกวัน ถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์แจ้งประวัติการเดินทาง หรือโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีความห่วงใยของผู้ปกครอง และสถานศึกษาต่าง ๆ ที่มีนักเรียน นักศึกษา รวมทั้งบุคลากรของสถานศึกษา กลับจากการเดินทางไปต่างประเทศ และมีข้อกังวลเรื่องการติดเชื้อ โดยพบหลายสถานศึกษาที่ให้ นักเรียน นักศึกษาและบุคลากร ไปโรงพยาบาลเพื่อขอตรวจหาเชื้อและขอใบรับรองแพทย์ก่อนไปโรงเรียนนั้น
กระทรวงสาธารณสุขเข้าใจถึงความกังวล แต่ไม่แนะนำให้ไปขอตรวจและขอใบรับรองแพทย์เนื่องจาก
1.การไปตรวจหาเชื้อในช่วงที่ไม่มีอาการ โอกาสพบเชื้อน้อยมาก หรือหากตรวจแล้วพบว่าเป็นลบก็ไม่ได้ยืนยันว่าจะไม่ป่วย จึงไม่มีความจำเป็นที่จะไปขอตรวจ ในขณะที่ไม่มีอาการ
2.การไปโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น จะเป็นการเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการได้รับเชื้อจากโรงพยาบาล และที่สำคัญ อาจนำเชื้อต่าง ๆ ไปติดผู้ป่วยในโรงพยาบาล
3.ควรรีบไปตรวจเมื่อมีอาการตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข
สำหรับสถานศึกษาที่มีนักเรียน นักศึกษา เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดขอให้ปฏิบัติตน ดังนี้
1.ขอความร่วมมือให้นักเรียน นักศึกษา บุคลากร ที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีรายงานการระบาด พักอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน
2.สถานศึกษาควรจัดให้มีมาตรการคัดกรองนักเรียน นักศึกษา บุคลากร ทุกวัน โดยวัดไข้และสังเกตอาการ ไอ มีน้ำมูก เพื่อจะแยกตัวไปยังสถานที่เตรียมไว้ได้ทันที
3.นักเรียน นักศึกษา บุคลากร ที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีรายงานการระบาด ให้สังเกตอาการป่วยของตนเอง งดออกไปในที่สาธารณะ ที่มีคนอยู่จำนวนมาก งดใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น วัดไข้ทุกวัน ไม่ใช่ของร่วมกับผู้อื่น ไม่ใช้ขนส่งสาธารณะ หากอาการไม่ดีขึ้นให้ใส่หน้ากากอนามัยและรีบไปพบแพทย์ พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง หรือโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
4.สถานศึกษา ควรจัดให้มีเจ้าหน้าที่หรือครูอนามัยเพื่อประสานกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่
5.สถานศึกษาต้องจัดให้มีอุปกรณ์สำหรับการล้างมือและแอลกอฮอล์เจลอย่างเพียงพอ สำหรับนักเรียน นักศึกษา บุคลากร
