นนทุบรี – กระทรวงสาธารณสุข เผย ยอดผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เท่าเดิม 40 คน รักษาหายกลับบ้านได้อีก 3 คน ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 13 คน พร้อมติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับกลุ่มผู้ป่วยยืนยัน 3 คนวานนี้ (26 ก.พ.) ได้ครบทุกคนแล้ว พร้อมเพิ่มช่องทางตอบข้อสงสัยคลายกังวลประชาชน
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 นายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข นำคณะแถลงข่าว สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 COVID-19 (โควิด-19) ประจำวันว่า ข่าวดี วันนี้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้เพิ่มอีก 3 คน จากสถาบันบำราศนราดูร 2 คน เป็นชายจีนอายุ 63 ปีและชายไทยอายุ 49 ปี อีกคนจากโรงพยาบาลราชวิถี เป็นหญิงจีน อายุ 33 ปี รวมมีผู้ป่วยยืนยันที่รักษาหายแล้ว 27 คน ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 13 คน รวมยอดผู้ป่วยสะสม 40 คน
ส่วนการติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับกลุ่มผู้ป่วยยืนยัน 3 คนวานนี้ (26 ก.พ.) ได้แก่ คนในครอบครัว เพื่อนร่วมกรุ๊ปทัวร์ บุคลากรทางการแพทย์ เพื่อนร่วมชั้นเรียน ขณะนี้ติดตามได้ครบทุกคนแล้ว โดยผู้สัมผัสเสี่ยงสูง หมายถึง ผู้สัมผัสที่มีโอกาสสูงในการรับหรือแพร่เชื้อกับผู้ป่วย ประกอบด้วย ผู้สัมผัสใกล้ชิดหรือมีการพูดคุยกับผู้ป่วยในระยะ 1 เมตรนาน 5 นาทีหรือถูกไอ จาม รด จากผู้ป่วยโดยไม่มีการป้องกัน เช่น ไม่สวมหน้ากากอนามัย ผู้ที่อยู่ในบริเวณที่ปิดไม่มีการถ่ายเทอากาศ เช่น ในรถปรับอากาศ ห้องปรับอากาศ ร่วมกับผู้ป่วย และอยู่ห่างจากผู้ป่วยไม่เกิน 1 เมตรนาน 15 นาที โดยไม่มีการป้องกัน
ทั้งนี้ มีผู้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 เข้ามาที่ กรมควบคุมโรค ผ่านสายด่วน 1422 (30 คู่สาย) จำนวนมาก จึงได้เปิดช่องทางการสื่อสารเพิ่มเติม ทางแชตบอต (chat bot) ชื่อ “คร.OK” ที่สามารถตอบคำถามที่พบบ่อย หรือ official line ชื่อ “รู้กันทันโรค” ประชาชนสามารถเลือกใช้ช่องทางดังกล่าว เพื่อฟังข้อมูลอัตโนมัติ หรือฝากข้อความให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ
อย่างไรก็ตามนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงนามในประกาศโรคติดต่ออันตรายแล้ว เย็นวานนี้ (26 ก.พ.) และเตรียมประกาศในราชกิจจานุเบกษา มีผลบังคับใช้ในวันถัดไป
ส่งผลให้ ผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง ควรแจ้งประวัติการเดินทางทุกครั้ง เพราะการปกปิดข้อมูลประวัติความเสี่ยงประวัติการเดินทาง ไม่เป็นประโยชน์ และอาจเป็นโทษ นำโรคมาติดคนใกล้ชิด เพื่อนร่วมงาน ขอให้อย่ากลัวที่จะบอกประวัติความเสี่ยง สาธารณสุขไทยมีศักยภาพเพียงพอในการดูแลรักษา แต่ต้องอาศัยความร่วมมือของประชาชน ในการมีส่วนร่วมในการป้องกันการแพร่กระจายของโรค หากเรามีความเสี่ยงและมีอาการสงสัยป่วย ให้หยุดที่ตัวเรา แยกตัวออกจากผู้อื่น ป้องกันตนเอง ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ งดใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น งดใช้ขนส่งสาธารณะ ผู้ที่เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง หากมีความจำเป็นต้องทำงาน สามารถทำงานที่บ้านได้ โดยปรึกษากับหัวหน้างาน จดบันทึกอาการของตนเองและวัดไข้ทุกวัน
สำหรับประชาชนที่มีประวัติเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง หรือพื้นที่ที่มีการรายงานพบผู้ป่วย หลังเดินทางกลับประเทศไทยภายใน 14 วัน ถ้ามีอาการไข้ เจ็บคอ มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น น้ำมูกไอ เสมหะ หายใจเร็ว หอบให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือสาธารณสุขทันที พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทาง เนื่องจากมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวม และมีอาการรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้
ส่วนผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปต่างประเทศที่มีการระบาด และหากจำเป็นต้องเดินทางไป ขอให้หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้ป่วย การไปตลาดค้าสัตว์มีชีวิต การสัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดกับสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ที่ป่วยหรือตาย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: