นนทบุรี – กระทรวงสาธารณสุข ระบุ สถานการณ์โควิด-19 ไทยอยู่อันดับ 15 ของโลก พร้อมบูรณาการความร่วมมือ เตรียมแผนรับแรงงานไทยกลับจากเกาหลีใต้
วันที่ 3 มีนาคม 2563 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ประจำวัน โดยวันนี้ตัวเลขเท่าเดิม คือ มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อยังคงรักษาในโรงพยาบาล 11 คน กลับบ้านแล้ว 31 คน เสียชีวิต 1 คน รวมสะสม 43 ราย อาการหนัก 1 คน ทำให้ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 15 ของโลก
พร้อมขอความร่วมมือประชาชน ชะลอไม่ให้ประเทศไทยเข้าสู่การแพร่ระบาดในวงกว้าง โรคนี้ป้องกันได้ด้วยการ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อย ใส่หน้ากากอนามัย” ขอให้ทุกคนเตรียมพร้อมรับมือสู้ไปด้วยกัน รับผิดชอบต่อตัวเองและสังคม ด้วยการป้องกันตัวเองและการติดเชื้อ ไม่เพิ่มโอกาสแพร่เชื้อให้คนอื่นหากตนเองเป็นกลุ่มเสี่ยง พร้อมตั้งสติรับรู้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้และนำไปปรับใช้ และสู้ไปด้วยกันเพราะเป็นปัญหาของทุกคน ต้องร่วมมือร่วมใจกัน ไม่โทษใคร
สำหรับกรณีแรงงานไทยผิดกฎหมายในประเทศเกาหลีใต้ ที่ต้องการกลับประเทศนั้น กระทรวงสาธารณสุขกำลังประสานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน กระทรวงคมนาคม สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และฝ่ายความมั่นคง เพื่อวางแผนร่วมกัน เนื่องจากเป็นเรื่องระดับรัฐบาลที่ต้องบูรณาการความร่วมมือ ในการจัดการปัญหานี้ ในส่วนกระทรวงสาธารณสุข จะดูแลป้องกันการระบาด ดำเนินการตามหน้าที่และพร้อมที่จะดำเนินการตามข้อสั่งการต่อไป
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุข ออกประกาศให้เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นเชื้อโรคที่ต้องควบคุม ตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.บ.เชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ.2558 กำหนดให้เป็นเชื้อโรคควบคุมในกลุ่มที่ 3 หากผู้ใดต้องการครอบครอง ต้องขออนุญาตเพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.เชื้อโรค
นอกจากนี้ ยังชี้แจงข้อกังวลของประชาชน กรณีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศและไม่ได้กักตัว ดังนี้
1.กลุ่มที่จำเป็นต้องแยกกักกันหรือสังเกตอาการ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ ประกอบด้วย ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสอบสวนโรค คือ มีอาการและประวัติมาจากพื้นที่ระบาด ต้องแยกกักอย่างเข้มงวดในโรงพยาบาล และกลุ่มที่ไม่มีอาการแต่เสี่ยงที่จะรับเชื้อจากผู้ป่วยหรือผู้สงสัยว่าป่วย (กลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง) ได้แก่ คนในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน เพื่อร่วมชั้นเรียน เพื่อนร่วมยานพาหนะ ต้องกักกันตนเองที่บ้านอย่างเคร่งครัด 14 วัน งดเที่ยว งดเรียน งดทำงาน แยกของใช้ หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ เจ้าหน้าที่จะรับตัวไว้ดูแลตามระบบ
2.กลุ่มไม่สัมผัสกับผู้ป่วย ไม่มีอาการ แต่มีความเสี่ยงเนื่องจากเดินทางจากพื้นที่ระบาด(ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ) ขอให้ลดกิจกรรมทางสังคม สวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกจากที่พัก หมั่นล้างมือ อย่าไปในพื้นที่ที่มีคนอยู่หนาแน่น ให้สังเกตอาการตัวเองที่บ้าน 14 วัน หากมีไข้ ไอ เจ็บคอ ให้พบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติเดินทาง
3.ผู้ที่อยู่ในชุมชนเดียวกับผู้ป่วย และประชาชนทั่วไป ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข คือ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัยเมื่อไปในที่ชุมชน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: