กรุงเทพฯ – ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 มีมติเอกฉันท์ การระบาดในไทยยังอยู่ระดับ 2 ไม่เข้าสู่ระยะที่ 3 เตรียมเสนอ ครม.เลื่อนวันหยุดสงกรานต์ไปช่วงเหมาะสม หวังจำกัดการระบาด พร้อมสั่งปิดสถาบันการศึกษา สนามม้า ผับ โรงหนัง
วันที่ 16 มีนาคม 2563 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ครั้้ง 1 ที่มี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งใช้เวลาถึง 5 ชม.ครึ่ง ว่า
ที่ประชุมเห็นชอบร่วมกันว่า การแพร่ระบาดโควิด-19 ของไทย ยังอยู่ในระยะที่ 2 ยังไม่เข้าสู่ระยะที่ 3 โดยระยะ 3 จะประกาศเมื่อคนไทยรับเชื้อกันเอง สืบสวนโรคไม่พบว่าเกี่ยวข้องกับประเทศที่แพร่เชื้อ เป็นการติดต่อในหมู่คนไทยที่ไม่ได้มาจากต่างประเทศ และต้องพบเป็นจำนวนมากหลายพื้นที่ แต่ขณะนี้ เป็นการเตรียมเข้าสู่ระยะที่ 3 โดยเตรียมการและความพร้อมต่าง ๆ ในการรับมือ เพื่อความไม่ประมาทด้านต่าง ๆ ดังนี้
1.ด้านสาธารณสุข ทั้งเรื่องสถานพยาบาลที่จะรับคนไข้ ทั้่ง ร.พ.รัฐ เอกชน ท้องถิ่น ร.พ.มหาวิทยาลัย ร.พ.ทหาร ร.พ.ตำรวจ ให้เพียงพอ พร้อมระดมแพทย์-พยาบาล และยา
ข่าวน่าสนใจ:
2.เวชภัณฑ์ กระทรวงพาณิชย์จะเร่งกำลังการผลิตหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ และแอลกอฮอล์เจล โดยจะนำของกลางที่จับ-ยึดได้มาใช้ก่อน แต่ไม่ให้เสียรูปคดี ขณะเดียวได้ ได้ติดต่อต่างประเทศเพื่อสนับสนุนด้วย
3.ข้อมูลข่าวสาร แต่ละวันมีประชาชนร้องเรียนและสอบถามข้อมูลประมาณ 1,000 ราย ตอบและแก้ปัญหาได้ 98%
4.การต่างประเทศ มีต่างประเทศแสดงความประสงค์จะช่วยเหลือด้านเวชภัณฑ์ หน้ากากอนามัย และอุปกรณ์ทางการแพทย์ แต่นายกรัฐมนตรี ย้ำให้เร่งผลิตเพื่อช่วยเหลือตัวเอง ส่วนฟรีวีซ่า และ VOA ได้แจ้งยกเลิก และประสานทุกประเทศที่มีข้อตกลงต่อกัน ไม่มีข้อขัดข้อง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังสั่งตั้งทีมไทยแลนด์ ในทุกประเทศ ไว้คอยประสานงานและให้ความช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ โดยมีเอกอัครราชทูตประเทศนั้น ๆ เป็นหัวหน้า
5.มาตรการป้องกัน เตรียมรับมือสำหรับผู้ที่ยังไม่ป่วย ยืนยันยังไม่ประกาศระยะ 3 แต่ต้องเตรียมรับสถานการณ์ โดยให้การเข้าประเทศมีความเข้มงวดกวดขันมากขึ้น แต่จะยังไม่ประกาศเขตโรคติดต่อเพิ่มเติมจากเดิม 4 ประเทศ 2 เขตปกครองเดิม (จีน เกาหลีใต้ อิหร่าน อิตาลี ฮ่องกง มาเก๊า) แต่ถ้าจะเข้ามาต้องมีใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 3 วัน ทำประกันสุขภาพ และยินยอมรับการติดตั้งแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ เพื่อติดตามข้อมูลข่าวสาร และติดตามตัว
รองนายกรัฐมนตรี แถลงต่อว่า สำหรับเทศกาลสงกรานต์ที่เป็นวันหยุดยาวนั้น จะทำให้มีการเคลื่อนย้ายเดินทางมากกว่าปกติ เกรงว่าจะเป็นปัจจัยเสี่ยงในการแพร่เชื้อ จึงให้ยกเลิกวันหยุดสงกรานต์ 13-15 เม.ย. ไม่เป็นวันหยุดราชการและวันหยุดงานของภาคเอกชน เพื่อจำกัดการแพร่ระบาด แต่จะมีการประกาศชดเชยหลังสถานการณ์เบาบางลง
พร้อมกันนี้ จะเสนอควบคุมสถานที่ที่มีการชุมนุมกันมาก ๆ เป็นกิจวัตร เพื่อทำกิจกรรมบางอย่างร่วมกัน เช่น ร้องตะโกน สัมผัส เพื่อป้องกันการระบาดในที่ชุมชนที่เป็นความเสี่ยง ซึ่งน่าจะเริ่มได้ในวันพุธที่ 18 มี.ค.นี้ เป็นต้นไป ดังนี้
1.ปิดมหาวิทยาลัยทั้งรัฐและเอกชน โรงเรียน รวมถึงนานาชาติ ให้ปิดภาคเรียนเร็วขึ้น และสถาบันกวดวิชา
2.สนามมวย สนามกีฬา เช่น ฟุตบอล บาสเก็ตบอล โรงภาพยนตร์ หรืออื่น ๆ โดยอาจกำหนดมาตรการโดยอาศัยเกณฑ์จำนวนคน ในการพิจารณา
3.ร้านค้า ร้านอาหาร และอื่น ๆ ที่ไม่เข้าเกณฑ์ ยังเปิดได้ปกติ แต่ต้องมีมาตรการรองรับ เช่น การวัดไข้ มีแอลกอฮอล์เจล หน้ากากอนามัย ถ้าฝ่าฝืน จะสั่งปิดเป็นราย ๆ ไป
นายวิษณุ เครืองาม กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับมาตรการป้องกัน เรื่องเลื่อนเวลา หรือเหลื่อมเวลาทำงานและพักเที่ยง เพื่อลดจำนวนคนที่จะเดินทางพร้อม ๆ กัน ครั้งละมาก ๆ รวมถึงจะมีคำสั่งให้ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจทำงานที่บ้านด้วย สำหรับภาคเอกชน ขอให้สั่งเลื่อนประชุมผู้ถือหุ้น หรือใช้วิธีการประชุมทางไกลแทน
ทั้่งนี้ มาตรการทั้งหมดนี้ จะนำเข้าที่ประชุมค ณะรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ (17 มี.ค.63)
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: