กรุงเทพฯ – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งปิด ‘สถานบริการ-ผับ-บาร์’ ทั่วประเทศ วอน อยากให้เหตุการณ์สงบต้องร่วมกัน ใครเสี่ยงให้กักตัวเอง คน กทม.อย่ากลับต่างจังหวัด เพื่อสกัดการระบาด
วันที่ 20 มีนาคม 2563 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทย มีข้อสั่งการไปถึงทุกจังหวัด ตามข้อพิจารณาเรื่องการปิดผับและสถานบันเทิง ให้ไปพิจารณาอย่างถี่ถ้วน และคาดว่านับตั้งแต่วันนี้ (20 มี.ค.63) ทุกจังหวัดจะปิดสถานบริการ ผับ บาร์ ทั้งหมดทั่วประเทศ 14 วัน
ทั้งนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 สั่งการไปที่ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยเฉพาะเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคมใกล้ชิด รวมถึงสั่งการให้สถานบันเทิง สถานบริการ สนามมวย ในกรุงเทพฯ ปิดชั่วคราว 14 วัน สำหรับต่างจังหวัด ให้คณะกรรมการจังหวัดที่มีผู้ว่าฯ เป็นประธานพิจารณาปิดหรือไม่ปิดสถานที่ เช่นที่ จ.พิษณุโลก คณะกรรมการแจ้งว่ายังไม่พบการแพร่ระบาด
ส่วนที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศปิดไปแล้ว 68 ด่านชายแดน ท่าเรือ ท่าอากาศยาน ขาดเพียงด่านชายแดนถาวร 5 แห่ง กระทรวงมหาดไทยจะไปพิจารณาประกาศปิดเพิ่ม รวมทั้งหมดเป็น 73 แห่ง นอกจากนี้ ยังปิดจุดผ่อนปรน 51 แห่ง สำหรับจุดผ่านแดนถาวร จะพิจารณาเท่าที่จำเป็นต่อการสัญจรระหว่างแดน เหลือจังหวัดละหนึ่งแห่ง หรือถ้ามีความจำเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถสั่งปิดได้ทั้งหมด
ข่าวน่าสนใจ:
- "กรุงเทพฯ ดีต่อใจ" ชวน ฮีลกาย..ฮีลใจ รับปีใหม่ 3-5 ม.ค.68
- นายกฯ "อิ๊ง" เปิดงานออนซอนกลองยาวชาววาปี สานตำนานเมืองวาปีปทุม 142 ปี
- หมดวาระอบจ.ตรัง รุ่งขึ้น “บุ่นเล้ง” เปิดตัวทันควัน ใช้ชื่อ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” แทน “ทีมกิจปวงชน” ชูนโยบาย “รวมพลังที่ยิ่งใหญ่ ขับเคลื่อนตรังให้เป็น 1”
- คู่แข่งนอกสายตานายก ก้อย “พนธ์ มรุชพงษ์สาธร” ขอวัดดีกรีว่าที่นายก อบจ.แปดริ้ว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อว่า ในส่วน จ.เชียงราย ที่มีพรมแดนติดกับหลายประเทศ จะยกให้เป็นกรณีพิเศษ อย่างไรก็ตาม มาตรการที่จะดำเนินการต่อผู้ผ่านเข้า-ออก ต้องพิจารณาอย่างรัดกุม ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ที่มาจาก 4 ประเทศกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งบุคคลมาจากประเทศที่มีการระบาดต่อเนื่อง 11 ประเทศ ต้องกักตัว 14 วัน ซึ่งกำชับให้ทุกจังหวัดดำเนินการอย่างรัดกุม
อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชน ให้ทำตามมาตรการที่เจ้าหน้าที่กำหนด เช่น หากใครไปในพื้นที่เสี่ยงมาตัองกักตัวเองในที่พัก หากทุกคนช่วยกันก็จะลดการระบาดของโรคได้ ได้เน้นย้ำทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ให้ติดตามผู้ที่เข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน ถ้ากำหนดพื้นที่ได้ก็จะดูแลในพื้นที่ต่าง ๆ เหล่านี้ได้ ถ้าพบการแพร่ระบาดมาก อาจจะมีมาตรการพิเศษในพื้นที่นั้น ๆ
“ถ้าประชาชนทำตามที่กระทรวงสาธารณสุขแจ้งไว้ และร่วมมือช่วยกัน เช่น คนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงใน กรุงเทพฯ และปริมณฑล ไม่ควรเดินทางไปต่างจังหวัด ถ้าช่วยกัน ก็มั่นใจว่าจะควบคุมได้ สำหรับคนในต่างจังหวัดก็ต้องป้องกันอย่างรัดกุม ไม่มีที่ไหนทำสำเร็จถ้าประชาชนไม่ร่วมกัน” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: